ผู้ว่าฯปราจีนบุรีแจ้งดำเนินคดีโรงไฟฟ้าไม่แจ้งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซีย-137 หาย

ผู้ว่าฯปราจีนบุรีแจ้งดำเนินคดีโรงไฟฟ้าไม่แจ้งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซีย-137 หาย





ad1

ปราจีนบุรี–ดำเนินคดีข้อกล่าวหาแรกกับโรงไฟฟ้าไม่แจ้งความโดยพลัน ขณะชาวปราจีนฯเตรียมบุกยื่นหนังสือถึงนายก-รักษาการณ์นายกรัฐมนตรี ให้ยกปัญหา  เป็นระดับชาติไม่ใช่เรื่อของเฉพาะชาวปราจีนฯ-ท้องถิ่น ระบุผลวิจัยสมุนไพรไทย  สามารถหยิบใช้ได้ทันทีสร้างอนุมูลอิสระป้องกันอาการจากการสัมผัสซีเซียม-137  อาทิ  รางจืดดอกม่วง  รางจืดต้ม-น้ำรางจืดสมุนไพรไทย ช่วยชีวิต ให้ไม่เป็นง่อยเปลี้ย แก้พิษ จะมีเตรียมแจกฟรี

วันนี้ 21 มี.ค.66  ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้า   นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี  พร้อมคณะเข้าตรวจสอบโรงหลอมเหล็กแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  พื้นที่โรงงาน   ที่ตรวจพบสารซีเซียม-137 เพื่อทำการประชุมวางแผนเกี่ยวกับการเรียกคืน   และการเก็บถุงบิ๊กแบ๊กที่ตรวจพบสาร cz-137    

หลังจากการตรวจสอบวัสดุกัมมันตรังสีซีเซี่ยม 137 หายไปจากที่ตั้งของบริษัทเนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลท์ 5 เอ นิคมอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี   หายไป    จึงตรวจสอบร่วมกับทางสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติตรวจสอบตามโรงงานที่คาดว่าวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม137จะมีโอกาสหลุด ทางสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในโรงงานอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้ว ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน 5 แห่ง

ช่วงเย็นของวันที่ 19  มี.ค.ที่ผ่านมา     มีการตรวจสอบในโรงหลอมเหล็ก ต.หาดนางแก้ว  ดังกล่าว   ด้วยเครื่องมือ สามารถตรวจสอบพบสารปนเปื้อนในฝุ่น    ที่ได้จากการผลิตโลหะคือวัสดุกัมมันตรังสีเสี้ยม 137 ในบิ๊กแบก 24 ถุงรวม 24 ตัน   อยู่ในพื้นที่ปิดของโรงหลอมและพบ 1 ถุง   มีการนำไปถมบริเวณหลังโรงงาน 

เจ้าหน้าที่ปรมาณูเพื่อสันติ จึงให้ทางโรงงานขุดดินใส่บิ๊กแบ็คกลับมาเก็บที่เดิมในโรงงาน ทางจังหวัดได้ประกาศให้กันบริเวณโรงงานเป็นเขตควบคุม ขณะนี้ขอยืนยันว่า 4 เซียน 137 ที่ปนเปื้อนในฝุ่นโลหะถูกควบคุมและกำจัดอยู่ในพื้นที่เฉพาะ ไม่กระจายออกจากโรงงานและทำการตรวจหาสารปนเปื้อนในร่างกายของพนักงานทุกคนรวม 70 คน

เป็นคนไทย 10 คนแรงงานต่างด้าว 60 คน ไม่มีการพบสารปนเปื้อนตามร่างกายของพนักงานตามหลักวิชาการที่ใช้เครื่องมือตรวจสอบ สนง.ปรมาณูเพื่อสันติสามารถควบคุมและกำจัดสารซีเซียม 137 อยู่ในพื้นที่เฉพาะ จากการตรวจสอบยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าซีเซียม 137 ที่พบในโรงหลอมเหล็กจะเป็นชิ้นเดียวกับที่สูญหายหรือไม่ 

นายรณรงค์น กล่าวต่อไปว่า     วันนี้พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเข้าเข้าไปร่วมประชุม   และดูวัสดุที่เป็นสาร ปนเปื้อนร่วมกัน และดูการเก็บรักษาวัสดุปนเปื้อนเป็นอย่างไรบ้าง    จะได้ควบคุมได้อย่างถูกต้องและชัดเจน   จะได้แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนบริเวณใกล้เคียง    มีความมั่นใจ

 โดยจะมีเจ้าหน้าที่ปรมาณูเพื่อสันติออกไปตรวจวัดปริมาณรังสีบริเวณรอบนอก     รวมถึงตรวจวัดคุณภาพอากาศ จะหารือกันให้ประชาชนมีความมั่นใจ     ด้านการแพทย์ได้ตรวจหาสารปนเปื้อนกับพนักงาน 70 คน (คนไทย 10 คน แรงงานต่างด้าว 60 คน)  ผลตรวจภายนอกไม่พบสารปนเปื้อน ส่วนการตรวจภายในมีการตรวจไปแล้วครั้งหนึ่งทั้งเอกซเรย์ด้วยไม่มีผลกระทบกับพนักงานทุกคน 

ด้านนานสุรินทร์ สืบซึ้ง   นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี   กล่าวว่า    ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร่วมกับทางสาธารณสุขอำเภอ    ได้สอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง   ยังไม่พบอาการผิดปกติแต่อย่างใด   ในส่วนพนักงานที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 70 คนเป็นคนไทย 10 คนแรงงานต่างด้าว 60 คน    ผลตรวจหาสารปนเปื้อนไม่พบแต่อย่างใด

 ผู้สื่อข่าวรายงาน  ต่อไปว่า    ที่รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร อ.เมืองปราจีนบุรี  พบหลังมีการแถลงข่าวกระจายของกัมมันตรังสีซีเซียม-137ที่หายไปจากโรงไฟฟ้า ในย่านนิคมอุตสาหกรรม 304 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรีที่ทางโรงงานได้แจ้งลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ศรีมหาโพธิ เมื่อวันที่ 10 มี.ค.66   ทางจังหวัดปราจีนบุรีร่วมบูรณาการกับหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ใช้เครื่องมือแสกนตรวจพบสารกัมมันรังสีซีเซียม-137ที่โรงหลอมเหล็ก อ.กบินทร์บุรี    

พบที่ มีประชาชนทั่วไปในจังหวัดปราจีนบุรี  ได้ เฝ้าระวังอาการแสดง   ของการได้รับรังสีกัมมันตรังสี   เข้าตรวจเลือด ปัสสาวะ  เป็นจำนวนมาก    ทั้งนี้ อาการแสดงที่พบจากการสัมผัสซีเซียม-137 มีทั้งทางผิวหนัง เช่น เป็นแผลตุ่มน้ำพอง ผิวหนังอักเสบ อาการทั่วไป เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีค่าเม็ดเลือดขาวผิดปกติ

ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พล.ต.ต.วินัย   นุชชา ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี  ได้ลงตรวจสำนวนการสอบสวน พยานหลักฐาน  เพื่อดำเนินคดีกับของบริษัทเนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด หลังจากทางสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 66      แจ้งความเรื่องที่ผู้ครอบครองวัตถุชิ้นนี้    ไม่แจ้งหายได้พลัน    ความผิดที่ไม่แจ้งโดยพลัน   มีความผิดถ้าหายเมื่อไหร่เขาต้องแจ้งทาง ปรมาณู      ทางตัวหน่วยงานและทางตำรวจเองมารู้ในวันที่ 10 มีนาคม  66  โดยมี พ.ต.อ.มงคล  โท้เป๋า ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ , ทีมสืบสวน –สอบสวนให้การต้อนรับและนำตรวจ

พ.ต.อ.มงคล  โท้เป๋า ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมหลักฐาน พยาน ,ทำการสอบสวนบุคคล  โดยจะดำเนินคดีเรื่องที่ผู้ครอบครองวัตถุชิ้นนี้    ไม่แจ้งหายโดยพลัน    ความผิดที่ไม่แจ้งโดยพลัน  โทษจำคุก 1ปี ปรับไม่เกิน 100,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   พ.ต.อ.มงคล  กล่าว 

ด้าน  เภสัชกรหญิง ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร  ภาคีเครือข่ายชาวปราจีนบุรี   กล่าวว่า    ในนามภาคเครือข่ายชาวปราจีนบุรี  ที่ส่งเสริมการผลิตเกษตรอินทรี , ผลิตสมุนไพร   ในเรื่องของซีเซียม -137 ที่หายไปในโรงงาน    จะมีผู้เชียวชาญมากมายในการออกมาพูด   คนปราจีนฯ เกิดการระแวงสับสนหวาดกลัวไปหมด

ทำให้คนไม่รู้จะเชื่ออย่างไรดี    ทำให้ประชาชนสับสนและไม่เชื่อใจภาครัฐ      ซึ่ง มันเป็นปัญหาระดับชาติไปแล้ว  ซึ่งฟังแถลงข่าว น่าจะรู้   เครื่องวัด กัมมันตรังสี เป็นวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้   ต้องมีการลงโทษและชดเชยว่า   คุณจะมีมาตรการชดเชยยังไงชาวบ้าน   ที่ก่อนหน้าพวกเขาได้รับเรื่องโควิด-19  ก็จะตายอยู่แล้ว   ยังต้องมาตายซ้ำสองเจอเรื่องนี้อีก     คน ปราจีนบุรี ต้องการความจริงในเรืองนี้       ที่เขาบอกว่าเป็นปริมาณน้อยมันอย่างไร?    ราชการต้องไม่ปกปิดโรงงาน   โรงงานต้องรับผิดชอบต่อสังคมต่อจังหวัดปราจีนบุรี

ซีเซียม -137 มีมวลสารแค่ 0.05 กรัมหรือ หรือ 5 mg และ  การรับรังสีขึ้นกับปริมาณ และระยะเวลา  ทำให้เซลมีความเสื่อม   ถ้ารับน้อยซ่อมได้   รับเป็นอนุมูลอิสระ    นักวิจัยของชาวอินเดีย  วิจัยรองรับหากมีการใช้สารปรมาณู   วิจัยสมุนไพรรองรับ มะตูม กะเพรา ขิง กระชาย ขมิ้นชัน   สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการดูแลตนเองได้  ต้านอนุมูลอิสระ ซ่อมแซมเซล

หรือสมุนไพรในครัว  หัวหอม  กระเทียม  นี่กินเยอะๆเลย    เพราะมีต้านอนุมูลอิสระ   และ   รางจืดดอกม่วง   รางจืดต้ม-น้ำรางจืดสมุนไพรไทย  ก็เคยเป็นสมุนไพรช่วยชีวิตให้ไม่เป็นง่อยเปลี้ย   แก้พิษ    จะมี   เตรียมสมุนไพรรางจืด ขมิ้นชัน มะขามป้อม แจกฟรี     เหตุการณ์ครั้งนี้    ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก ดร.เภสัชสุภาพร  กล่าว

และกล่าวต่อไปว่า  ในนามของภาคีเครือข่ายภาคประชาชนชาวปราจีนบุรี   คนปราจีนฯไม่ยอม  สิ่งที่เกิดขึ้นโดยพสกเขาไม่รู้เรื่องเลย  จะยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี หรือ รักษาการณ์นายกรัฐมนตรี  ในเรื่องนี้   และ  จะมีตัวแทนไปที่ทำเนียบรัฐบาลในวันพฤหัสบดี23  มี.ค.66 ที่จะถึงนี้  ให้ยกปัญหา  เป็นระดับชาติไม่ใช่เรื่อของเฉพาะชาวปราจีนฯ-ท้องถิ่น ในผลกระทบระยะสั้นระยะยาว ความเชื่อถือ

โดย...มานิตย์   สนับบุญ/ ปราจีนบุรี