หนีตายโกลาหล!ไฟไหม้ตึกกลางกรุงย่านช่องนนทรีไฟคลอกบาดเจ็บเพียบ

ระทึกเกิดเหตุเพลิงไหม้ตึกแถวที่เปิดเป็นโรงงาน ย่านช่องนนทรี คนงานบางส่วนต้องหนีขึ้นดาดฟ้ารอความช่วยเหลือ ล่าสุดดับไฟได้แล้ว และช่วยคนงานครบทุกคน แต่มีผู้บาดเจ็บหลายราย

ร้อยตำรวจเอก ภัคธร หมวดเมือง รอง สว.สอบสวน สน.บางโพงพาง ได้รับแจ้งเมื่อเวลา 01.28 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 มีเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงานผักและผลไม้ส่งออก ภายในซอย นนทรี ซอย 3 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยถนนจันทน์ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดภายใน หจก.ซี.เค.เค.ฟู้ด บ้านเลขที่ 99/330 ซอย นนทรี ซอย 3 ถนน นนทรี แขวง ช่องนนทรี เขต ยานนาวา กรุงเทพมหานคร ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ปลูกติดกันหลายคูหาแต่ที่ตั้งของโรงงานดังกล่าวมีด้วยกัน 3 คูหา ซึ่งดัดแปลงเป็นโรงงานบันจุภัณฑ์ผักและผลไม้ส่งออก

จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นที่ 2 ของห้องเลขที่ 99/330 แล้วลุกลามขึ้นสู่ชั้นที่ 3 อย่างรวดเร็ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นบริเวณจุดเกิดเหตุชั้นที่ 2 เป็นลักษณะห้องเก็บของมีลังโฟมอยู่เป็นจำนวนมากโดยปกติแล้วชั้นที่ 2 ของตัวอาคารดังกล่าวจะไม่มีผู้พักอาศัยอยู่จะอยู่กันที่ชั้นที่ 3 และ 4 ซึ่งดัดแปลงเป็นห้องพักพนักงานของโรงงานดังกล่าว เมื่อเกิดเหตุการณ์พนักงานไม่สามารถวิ่งหนีลงมาได้จึงวิ่งขึ้นไปรอการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอยู่บนชั้นที่ 4 ของตัวอาคาร

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครจึงเร่งระดมฉีดน้ำระงับเหตุการณ์ดังกล่าว ใช้เวลาทั้งสิ้น 20 นาที จึงระงับเหตุการณ์เอาไว้ได้แล้วทำการช่วยเหลือคนงานที่ติดค้างอยู่ด้านบนอาคารลงมาสู่พื้นล่าง อย่างไรก็ตาม เหตุไฟไหม้ส่งผลให้มีคนงานที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 14 ราย มีทั้งอาการบาดเจ็บจากการสำลักควัน และมีคนที่โดนไฟลวกบริเวณผิวหนัง อาสาสมัครจึงเร่งนำส่งโรงพยาบาลเจริญกรุง และโรงพยาบาลมเหสักข์ ตามสิทธิ์การรักษาพยาบาลของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บของแต่ละบุคคล

จากการสอบถามนาย ธีรพงษ์ สำเภาน้อย อายุ 23 ปี เป็นพนักงานโรงงานดังกล่าวบอกเล่าว่า ตนเองนั่งเล่นอยู่บริเวณชั้นล่างแล้วมีเสียงตะโกนมาบอกว่าไฟไหม้ ตนก็ออกไปดูด้านนอกพบว่ามีไฟไหม้จริงบริเวณชั้นที่ 2 ตอนนั้นแสงเพลิงแรงมาก แล้วก็เห็นบางคนวิ่งฝ่ากองเพลิงลงมา คนอีกส่วนก็วิ่งขึ้นไปหลบด้านบนชั้นที่ 4

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการปิดล้อมอาคารดังกล่าวเอาไว้ก่อนและไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านในอาคาร เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งถึงจะสรุปได้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป