ตม.สงขลา 6 สกัดจับรถลักลอบขนคนต่างด้าวชาวเมียนมา 2 คัน 30 คน

ตม.สงขลา 6 สกัดจับรถลักลอบขนคนต่างด้าวชาวเมียนมา 2 คัน 30 คน





ad1

ตม.สงขลา 6 สกัดจับรถลักลอบขนคนต่างด้าวชาวเมียนมา 2 คัน 30 คน จับนายหน้าชาวเมียนมา 1 คน ขณะมารับช่วงที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ค่าหัวรายละ 47,000 บาท จะไปทำงานที่มาเลเซีย 

ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา (ตม.) ร่วมกับชุดสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6 ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์  สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6  พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง รอง ผบก.ตม.6  พ.ต.อ.พงศ์ธร พงศ์รัชตนันทน์ ผกก.ตม.จว.สงขลา พ.ต.อ.เด่นชาย เจริญยุทธ ผกก.สส.บก.ตม.6 สกัดจับรถยนต์กระบะขนคนต่างด้าวชาวเมียนมา 2 คัน ซึ่งเป็นแรงงานเถื่อนหลบหนีเข้าเมือง ทั้งรถนำทาง และรถที่ใช้บรรทุกคนต่างด้าว

โดยจับกุมได้บนถนนสายเอเชียพื้นที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา คันแรกเป็นรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บล-1055 ชุมพร มีนายธวัชชัย อายุ 22 ปี เป็นผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นรถตรวจสอบเส้นทางว่ามีการตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่จุดใดบ้าง 

คันที่ 2 เป็นรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บว-3770 สุรินทร์ ซึ่งเป็นรถรั้วหรือรถคอกขับตามหลังมา มีนางสาวสมจิตต์ อายุ 29 ปี เป็นคนขับ และท้ายรถกระบะพบคนต่างด้าวชาวเมียนมานั่งอัดแน่นกันมาถึง 30 คน โดยใช้ผ้าใบคลุมอย่างมิดชิดเพื่ออำพรางว่าขนส่งสินค้า

และขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจับกุมและตรวจสอบรถกระบะทั้ง2คัน มีนายหน้าคนหนึ่งโทรเข้ามาหานางสาวสมจิตต์ เพื่อนัดรับส่งแรงงานต่างด้าว ที่บริเวณปากทางเข้านิคมอุตสาหกรรมฉลุง ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา 

เจ้าหน้าที่ จึงซ้อนแผนตามสะกดรอยจนมาถึงจุดนัดพบ ก็มีนายออง จ่อ ตาน ชาวเมียนมา ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาติดต่อนางสาวสมจิตต์ เจ้าหน้าที่จึงจับกุมได้อีก 1 คนพร้อมรถจักรยานยนต์ 

จาการสอบสวนในเบื้องต้น ทั้งหมดให้การว่าขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมามาจาก จ.ประจวบคีรีขัน มาส่งในพื้นที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย

โดยนายธวัชชัย คนขับรถตรวจสอบเส้นทาง ระบุว่าได้ค่าจ้าง 9,000 บาท   ส่วนนางสาวสมจิตต์ คนขับรถขนแรงงานต่างด้าว บอกว่าได้ค่าจ้าง 3,000 บาท 

ในขณะที่นายออง จ่อ ตาน รับว่ามารอรับชาวเมียนมาเพื่อพาไปหลบซ่อนตัว เพื่อรอนายหน้าอีกชุดหนึ่งมารับไปส่งบริเวณช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย ได้ค่าจ้าง 2,000 บาท 

ส่วนคนต่างด้าวทั้ง 30 คนนั้น ระบุว่า ต้องเข้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย จ่ายค่าเดินทางประมาณ 3 ล้านจ๊าดหรือ 47,000 บาท 

เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวทั้ง 3 คน ดำเนินคดีความผิดฐานร่วมกันให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ให้การช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่

ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้ง 30 คน ดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต  

และจะทำการสอบสวนขยายผลเพื่อสาวไปถึงขบวนการค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติทั้งต้นทางในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์และปลายทางในพื้นที่ชายแดนไทย มาเลเซีย ต่อไป.