หนีตายระทึก!ฟไหม้บ้านเช่าเทศบาลเมืองปราจีนบุรี 5 หลังรวด วอด 3 หลังเสียหายบางส่วน 2 หลัง


ปราจีนบุรี - ระทึก!ก่อนสิ้นปีไฟไหม้บ้านเช่าในชุมชนบ้านกลางเหนือ (ริมทางรถไฟ) เทศบาลเมืองปราจีนบุรี 5 หลังรวด เสียหายเกลี้ยง 3 หลังอีก 2 หลัง เสียหายบางส่วน เบื้องต้นคาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา10.30น.วันนี้ 23ธ.ค.65 ร.ต.อ.(หญิง)อชิดา ไผ่โสภา รองสารวัตรเวร(สอบสวน)สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุในชุมชนบ้านกลางเหนือ ถนนเลียบริมทางรถไฟ เทศบาลเมืองปราจีนบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี เพลิงกำลังโหมลุกไหม้ไปยังบ้านข้างเคียงอีกหลายหลัง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และพร้อมด้วย พ.ต.อ กสินธุ์ ธำรงศรีสุข ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี , นางมาละนี จินดารัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจ.ปราจีนบุรี,นายวิธรัช รามัญ นอภ.เมืองปราจีนบุรี ,พ.อ.อภิกฤช ใจน้อม รอง กอ.รมน.จว.ปจ./รอง ผบ.มทบ.12 พ.อ.อภิชัย รอดวงษ์ รอง ผบ.มทบ.12ร่วมอำนวยการดับเพลิง พร้อมประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองปราจีนบุรีและจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท. )ใกล้เคียง รวมกว่า 20 คันและหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานจ.ปราจีนบุรีรีบไปที่เกิดเหตุ
พบเป็นย่านชุมชนหนาแน่นบ้านปลูกติดๆกัน อยู่ริมถนนเลียบติดทางรถไฟสายภาคตะวันออกปราจีนบุรี-อรัญประเทศ ซอยทางเข้าไฟไหม้ จุดสำหรับฉีดน้ำดับเพลิงแคบรถดับเพลิงเข้าลำบาก เป็นบ้านเช่าไม้2ชั้น รวม3หลัง อายุมากกว่า 50ปี ปลูกติดๆกันเพลิงกำลังโหมลุกไหม้เนื่องจากเป็นไม้จึงลุกลามเชื้อเพลิงอย่างดีและลมหนาวพัดช่วยโหม และ ไฟยังลุกลามไปบ้านด้านหลังใกล้เคียงกันอีก2หลัง
นางมาละนี กล่าวว่า สนง.ปภ.จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้ง เกิดเพลิงไหม้ บ้านของ น.ส.ปอราวรรณ์ สินธุรัมย์ บ้านเลขที่ 34/1 ถนนทางรถไฟ ใกล้ต้นกระบกข้างค่ายจักรพงษ์ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี โดยการแก้ไขปัญหานายวิธรัช รามัญ นายอำเภอเมืองปราจีนบุรี พร้อมด้วย พ.อ.อภิกฤช ใจน้อม รอง กอ.รมน.จว.ปจ./รอง ผบ.มทบ. 12 พ.อ.อภิชัย รอดวงษ์ รอง ผบ.มทบ12 และ สนง.ปภ.จ.ปราจีนบุรี ร่วมบัญชาการเหตุการณ์ และแจ้งประสาน อปท.และหน่วยทหารส่งรถดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุ ดังนี้
ทม.ปจ. รถดับเพลิง 2 คัน อบต.รอบเมือง รถดับเพลิง 1 คัน มทบ12 รถบรรทุกน้ำ 1 คัน กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ รถบรรทุกน้ำ 1 คัน มูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน รถกู้ภัย 1 คันรถพยาบาล 1 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ ทต.นาปรือ รถดับเพลิง 1 คัน อบต.บ้านพระ รถดับเพลิง 1 คัน อบต.ไม้เค็ด รถดับเพลิง 2 คัน อบต.ดงพระราม รถดับเพลิง 1 คัน
เจ้าหน้าที่ได้เร่งระดมฉีดน้ำเพื่อดับไฟที่ลุกไหม้อาคารดังกล่าว จนกระทั่ง เวลา 11.20 น. จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ จากการตรวจสอบมีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 5 หลังคาเรือน เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป"นางมาละนี กล่าว
ด้าน จ.ส.อ.บุญภพ กัทรี อายุ 80 ปี และ นางลิ้นจี่ กัทรี อายุ 72 ปี 2 สามี-ภรรยา นั่งดมยาดม กล่าวว่า "บ้านเช่าตนที่ถูกเพลิงไหม้ และบ้าน้ช่าติดกัน เป็นของน้า ปลูกให้คนเช่า และอีกหลังเป็นบ้านตนเองอยู่กัน2คนตายาย ช่วงๆเกิดเหตุ บ้านเช่าโดยช่างเย็บผ้าตะโกนบอกว่าไฟไหม้ๆตนเองถือค้อนวิ่งไป-วิ่งมาทำอะไรไม่ถูก ได้แค่ ถุงเอกสาร ธกส.ของลูก ออกมาแล้วกระเป๋าตังค์ที่ไม่มีเงิน มีเงินติดตัวมาอีกนิดหน่อยที่อยู่ในกระเป๋า เสื้อคอกระเช้า นางลิ้นจี่ กล่าว
และกล่าวต่อไปว่า "ตอนนั้น บ้านเช่าจุดต้นเพลิง(หลังกลาง)หลังแรกช่วงที่เกิดเหตุขณะเกิดเพลิงไหม้ ไม่มีคนอยู่ ออกไปข้างนอกหมด ไฟได้ลุกลามโหมไหม้บ้านใกล้เคียงฝั่งซ้าย-ฝั่งขวาอีก2หลังคาเรือน ที่เป็นบ้านไม้2ชั้น ปลูกมาได้กว่า 50 ปีทั้ง3หลัง คือบ้านตนเองฝั่งซ้ายมือ และบ้านช่างเย็บเสื้อผ้า อยู่ฝั่งขวามือ รวม3 หลังจนหมดในพริบตาและยังลุกลามติดบ้านด้านหลังอีก2หลัง แต่ดับได้ทัน"นางลิ้นจี่กล่าว
ขณะที่ นางบุษกร สินธุรัมย์ อายุ 32 ปี กล่าวว่า"ขณะเกิดเหตุ กำลังจะเอาลูกกินนมนอน เห็นควันไฟลอยขึ้นมาจากบ้านหลังกลาง เลขที่ 36 วิ่งขึ้นไปดูชั้นบนเห็นไฟกำลังลุกไหม้ แล้วรีบไปวิ่งไปบอกเจ้าของบ้านตากับยายแล้วก็โทรแจ้ง ดับเพลิง 199 มีทรัพย์สินที่เสียหายมีจักร 2 เครื่องเครื่องละ 2 หมื่นกว่า2 ชุด และกระเป๋า เสื้อผ้าลูกค้า กระเป๋าสตางค์ของตนเองก็ไม่ได้เอาออกมา นางบุษบง กล่าว
ด้านนางพรทิพย์ มากโชติ อายุ 53 ปี บ้านเช่าต้นเพลิง กล่าวว่า "ช่วงเกิดเหตุ ตนกำลังไปซื้อเกาเหลามากินข้าวเที่ยงกลับมาก็ไฟไหม้หมดแล้ว ได้รถเก๋งจอดอยู่หน้าบ้านมีทหารและชาวบ้านช่วยกันประมาณ 10 คนยกรถออกมาได้ 1 คัน ทรัพย์สิน ที่เสียหายรถมอเตอร์ไซค์ 1 คัน แหวน 1 วงเงินสด 2,000-3,000 บาท ที่บ้านเช่า อยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน ลูกๆไปทำงาน ส่วน สามีไปหาหมอที่โรงพยาบาลเป็นโรคหัวใจ นาง พรทิพย์ กล่าว
เบื้องต้นคาดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งทาง้จ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบต่อไป
มานิตย์ สนับบุญ / ปราจีนบุรี รายงาน