ญาติ"มัสนา"ร้องขอความเป็นธรรมหลังจนท.ขังคุกเค้นเอี่ยวบึ้มโกดังบ้านเจ๊ะเห

ญาติ"มัสนา"ร้องขอความเป็นธรรมหลังจนท.ขังคุกเค้นเอี่ยวบึ้มโกดังบ้านเจ๊ะเห





ad1

พนักงานสอบสวนนำนางสาวมัสนาฝากขังเรือนจำในระหว่างสอบสวนดำเนินคดีเอี่ยวกับเหตุความไม่สงบหลังจากถูกควบคุมตัวในพื้นทีรือเสาะนราธิวาสในฐานะต้องสงสัยคดีระเบิดโกดังบ้านเจ๊ะเห ญาติขอความเป็นธรรมขอได้รับประกันตัวเพราะห่วงสุขภาพของลูกยังเล็กทั้งสองคนร้องไห้เป็นเดือน

วันนี้(26พย.65)ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีหน่วยความมั่นคงควบคุมตัว นางสาวมัสนา ในพื้นที่รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีเหตถคยร้ายลอบกราดยิง ขว้างระเบิดใส่โกดัง และลอบวางระเบิดบริเวณจุดเกิดเหตุ ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวเข้าสู่ระบบกระบวนการซักถามที่ค่ายอิงคยุทธบริหารหนองปัตตานี 

ล่าสุดนางสาวมัสนาถูกส่งตัวให้กับพนักงานตำรวจนราธิวาส เพื่อสอบสวนกล่าวโทษในคดีความไม่สงบและทางพนักงานสอบสวนได้นำตัวฝากขังที่เรือนจำนราธิวาส ทางญาติได้เผยว่าบังไม่ได้นับประกันตัวสู่คดีแจ่อย่างใด
นางอังชณา นิเหมมะประธานกลุ่มด้วยใจ ได้โพสต์ในกรณีดังกล่าวว่า ผู้หญิงถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ได้รับการปล่อยตัวจากการควบคุมตัวด้วยกฎหมายพิเศษเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 และถูกส่งตัวไปยังสถานีตำรวจที่จังหวัดนราธิวาส ถูกดำเนินคดีและส่งตัวไปที่ศาลเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 แต่ไม่ได้รับการประกันตัวทำให้เธอถูกส่งตัวไปยังเรือนจำ

เมื่อมีการกล่าวหาก็ต้องต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมและต้องได้รับสิทธิในการประกันตัวเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง 

กรณีนี้สามีของเธอหลบหนีเธอต้องดูแลลูก 2 คนมาตั้งแต่ปีที่แล้วเมื่อเธอถูกควบคุมตัวในเรือนจำโดยไม่ได้รับสิทธิในการประกันตัว ลูกของเธอต่องขาดทั้งพ่อและแม่ การดูแลต้องอยู่กับญาติผู้ใหญ่

การได้รับสิทธิในการประกันตัวเพื่อพิสูจน์ตัวเองและได้มีโอกาสดูแลลูกของเธฮต่อไป

เราควรต้องเชื่อมั่นในกฎหมายที่ว่าทุกคนมีสิทธิที่จะเข้าถึงความยุติธรรมและสิทธิในการประกันตัว

ด้าน พ.ตอ.ทวี สอดส่อง สส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาชาติได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า การไม่ให้ประกัน จะสร้างความยากในการแก้ปัญหาความขัดแย้งครับ


ด้านนางไซะนับ หรือกะนะตากใบ แกนนำผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีตากใบ ได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่หน่วยความมั่นคงเข้าควบคุม นศ.มัสนา ชาวตำบลรือเสาะ ในฐานะต้องสงสัย้กี่ยวกับคดีลอบยิงและระเบิดโกดังในพี่เจ๊ะเห ได้มีญาติ นศ.มัสนา โทรประสานติดต่อขอความช่วยเหลือ ขอช่วยประสานคุยเพื่อช่วยเหลือนางมัสนา เนื่องจากลูกยังเล็กอยู่ทั้งสองคนร้องไห้ไม่หยุดรวมมาเป็นเดือนแล้ว ญาติไม่รู้ทำอย่างไร จนกระทั่ง นส.มัสนาถูกปล่อยตัวออกจากศูนย์ค่ายซักถามค่ายอิงคยุทธฯแต่กลับต้องถูกดำเนินคดีและถูกพนักงานสอบสวนฝากขังที่เรือนจำนราธิวาส ญาติได้เตรียมหลักทรัพย์จำนวนสี่แสนบาทเพื่อเตรียมยื่นประกันตัว นส.มัสนา แต่ยังไม่ได้ประกันตัวทำให้ทุกคนเป็นห่วงถึงสุขภาพลูกๆที่ยังเล็กอยู่และร้องไห้คิดถึงแม่ ในเมื่อถูกดำเนินคดีก็คงต้องสู้คดีในขั้นศาลแต่กว่าตะจบคดีคงต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร ถ้ามีโอกาสได้ประกันตัว จะได้มีโอกาสเลี้ยงดูแลลูก เดินหน้าควบคู่กันน่าจะเป็นเรื่องดี จะเกิดความมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม อย่างมีความหวังมากขึ้น