แล้งขาดแคลนอาหาร!โขลงช้างป่า 120 ตัว(+) ข้ามฝั่งจากแปดริ้วอยู่เชิงเขาปราจีนฯหากินในป่าอ้อยยาวผลักดัน ไม่ยอมกลับ


วันนี้ 24 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี รายงานว่าได้รับการร้องทุกข์ชาวบ้าน พบโขลงช้างป่าข้ามฝั่งมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ในพื้นที่ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายรอยต่อ5จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.จันทบุรี และจ.ระยอง) แตกโขลงเข้ามาหากินอยู่ที่เชิงเขามะกล่อง หมู่ที่ 14 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เข้ามานานม่กกว่า1สัปดาห์แล้วไม่ย้อยกลับคืนถิ่นที่อยู่เดิม
ช้างโขลงดังกล่าว ได้แตกโขลง หนีจากการผลักดันของเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่าอ่างฤาไนและ ชุดเฝ้าจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่า ต.เขาไม้แก้วอ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี แล้วโขลงช้างป่าดังกล่าวได้ออกมาหากินบริเวณพื้นที่ไร่อ้อยของเกษตรกรที่อยู่ติดกับเชิงเขานับ 1,000 ไร่ อยู่รอบๆบริเวณ สลับกับไร่มันสำปะหลัง ,สวนมะม่วง,มะละกอ,ป่ากล้วย,นาข้าวที่กำลังให้ผลผลิต สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรดังกล่าว เป็นอย่างมาก
ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่พากัน หวาดกลัวโขลงช้างป่า ออกมาไร่แต่ละครั้งต้องคอยระวังว่าโขลงช้างป่า ซึ่งไม่รู้ว่าจะห่กินอยู่ในไร่ของชาวบ้านคนใด อาจทำอันตรายบาดเจ็บ-เสียชีวิตได้
นายธนเกียรติ ไชยราษฎร์ อาสาสมัครเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าและ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล(ส.อบต.)หมู่ 14 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ผู้ที่บันทึกภาพโขลงช้างป่า กล่าวว่า ฝูงช้างป่าอ่างฤาไนแตกโขลงกันออกมาหากิน ข้ามฝั่งมาในพื้นที่ตำบลวังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี แทบจะทุกวัน โดยเฉพาะในหมู่บ้านโนนสมบูรณ์หมู่14 โขลงช้างมักพากันข้ามฝั่งเข้ามาอยู่อาศัยตรงเชืงเขามะกล่อง เข้ามาพักอยู่นาน4-5ปีแล้ว จนมาคลอดลูกที่แห่งนี้ เกือบกลายเป็นช้างประจำถิ่
ในทุกกลางคืน แม้ยามช่วงกลางวัน ตนเองและจิตอาสาฯประจำหมู่บ้าน-ตำบล ต้องพากันร่วมแรงร่วมใจ ออกไปผลักดันช้างป่าให้โขลงช้างออกไปจากพื้นที่ทำกิน-บ้านเรือนของชาวบ้าน เมื่อได้รับแจ้งจากชาวบ้าน โดยโขลงช้างป่า จะอาศัย-หลบอยู่เชิงเขามะกล่องและจะยกโขลง -แยกตัว ออกมาหากินในไร่อ้อย,ไร่มันสำปะหลัง,สวมะม่วง สวนมะละกอ,ป่ากล้วย หรือนาข้าว ของเกษตรกร สร้างความเสียหายให้กับเจ้าของไร่ นา สวน เป็นอย่างมาก
ตอนนี้ชุดผลักดันช้าง เอาไม่อยู่แล้ว เพราะลำพังกำลังเจ้าหน้าที่-จิตอาสาฯน้อยกว่าโขลงช้าง อาทิ โขลงช้าง120-150 ตัว แต่กำลังชุดผลักดันเพียง50คน และตังออกช่วยกันผลักดันโขลงช้างป่าทุกๆวัน รวมถึงต้องทำงานอาชีพประจำของตนเองอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่และผู้นำท้องถิ่นท้องที่ มาช่วยกันผลักดันช้างป่าโขลงดังกล่าวออกจากพื้นที่ เพื่อป้องกันความเสียหายพืชผลการเกษตรของชาวบ้าน หรือสูญเสียชีวิตชาวบ้านได้ นายธนเกียรติกล่าว
สำหรับโขลงช้างป่าชุดนี้ เมื่อวันที่ 17พ.ย.65 ทางทีมผลักดันช้างป่าตำบลเขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี ได้ผลักดันช้างป่า มายังป่าสะเดา บ้านวังกวาง หมู่ที่ 11 ต.วังท่าช้าง ทำให้ ผู้นำ ม.11 ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ได้ทำการผลักดัน ให้ไปประตูช้าง บ้านนายาว ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา แต่โขลงช้างป่า 120+ ดังกล่าวไม่ยอมไป ได้แวะพักที่เขามะกล่อง บ้านโนนสมบูรณ์ หมู่ที่ 14 ต.วังท่าช้าง ที่อยู่มี่ช้างป่าคุ้นเคยจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามใน วันที่ 2ธ.ค.65 นี้ จะได้นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนนำเสนอในที่ประชุม จังหวัดในภาคตะวันออกรวม8จังหวัด (ระยอง จันทบุรี ชลบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก) ที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่าประชุมที่ จ.ระยอง ในการแก้ไขปัญหาต่อไป
มานิตย์ สนับบุญ/ปราจีนบุรี รายงาน