“ทวี” รุดเยี่ยมสะบ้าย้อย น้ำท่วม-อพยพยกหมู่บ้าน เศร้า..ผู้เฒ่าไป รพ.ไม่ทันดับ

“ทวี” รุดเยี่ยมสะบ้าย้อย น้ำท่วม-อพยพยกหมู่บ้าน เศร้า..ผู้เฒ่าไป รพ.ไม่ทันดับ





ad1

วันนี้(17พย65)ผู้สื่อข่าวรายงานพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้มีแค่ปัญหาความไม่สงบที่ยังแก้ไม่ตกเสียทีเท่านั้น แต่ขณะนี้พี่น้องประชาชนยังต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งเป็นภัยธรรมชาติที่กระหน่ำซ้ำเติม

อย่างใน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา พื้นที่หมู่ 1 บ้านแลแบง ต.สะบ้าย้อย จำนวน 49 ครัวเรือน ประชากรราวๆ 200 คน ต้องอพยพไปอาศัยอยู่ที่ “ศูนย์พักพิงชั่วคราว” ที่โรงเรียนสะบ้าย้อย เนื่องจากเจอน้ำทะลักท่วมตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.65 ที่ผ่านมา โดยน้ำได้ท่วมทั้งหมู่บ้าน และเอ่อล้นเข้าไปในบ้านชาวบ้านจนไม่สามารถอาศัยอยุ่ต่อไปได้

นอกจากนี้ ยังมีผู้สูงอายุเสียชีวิตอีก 1 ราย เนื่องจากมีอาการแน่นหน้าอก และไม่สามารถไปโรงพยาบาลได้ทัน เพราะสถานการณ์อุทกภัย

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ทราบข่าวความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับชาวสะบ้าย้อย จึงรีบลงพื้นที่ไปเยี่ยมและให้กำลังใจทันที โดยเดินทางไปที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว โรงเรียนสะบ้าย้อย และลงเรือสำรวจพื้นที่ รวมทั้งตรวจดูผลกระทบ พร้อมร่วมรับฟังข้อเสนอจากผู้นำในพื้นที่ และพี่น้องประชาชน

เสียงจากในพื้นที่พากันเรียกร้องขอให้มีการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เนื่องจากหมู่บ้านแถบนี้เกิดน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี เฉพาะปีนี้ท่วมมาแล้ว 2 ครั้ง รวมทั้งครั้งนี้ ซึ่งระดับน้ำปัจจุบันยังคงท่วมสูงกว่า 2 เมตร มวลน้ำทะลักมาจากพื้นที่ จ.ยะลา และเขตแดนไทย-มาเลเซีย

พ.ต.อ.ทวี กล่าวกับพี่น้องชาวสะบ้าย้อยว่า มาให้กำลังใจ ขอให้ทุกคนสู้

“ผมคิดว่าพื้นที่อพยพ หรือพื้นที่พักพิงชั่วคราว คุณภาพน่าจะดีกว่านี้หน่อย ช่วยกันหน่อย จริงๆ น้ำท่วมทุกปี ลักษณะนี้เราต้องทำศูนย์อพยพที่เป็นกิจจลักษณะเลย หาที่ทำศูนย์อพยพ เพราะเป็นภัยที่เกิดขึ้นประจำ เท่าที่ฟังดูน้ำมาจากประเทศมาเลเซีย เขาพัฒนาพื้นที่ดี พอเกิดเหตุ น้ำก็มาพื้นที่ของเรา ครัวเรือนที่นี่ที่ประสบภัย บ้านที่มีบ้านเลขที่ประมาณเกือบ 100 หลัง ถ้ารวมบ้านไม่มีเลขที่ด้วยก็ร้อยกว่าหลัง ทุกหลังได้รับผลกระทบหมด บางหลังก็อาจมีคนอยู่ แต่ส่วนใหญ่เขาก็อพยพไปที่โรงเรียน”

“ภัยธรรมชาติเป็นเรื่องที่รัฐต้องเข้ามาดูแล เพราะว่าทรัพย์สินมันหายไปกับน้ำหมด สัตว์เลี้ยงก็ดี พืชผลทางการเกษตรก็ดี ถือเป็นความทุกข์ของประชาชน และขณะนี้ดูท่าทางน้ำยังไม่ลด และที่น่าเสียใจคือมีผู้สูงอายุต้องเสียชีวิต ถ้าเป็นภาวะปกติ ไม่มีน้ำท่วม อาจไปโรงพยาบาลทัน แต่พอมีน้ำท่วม ไปไม่ทัน เลยต้องเสียชีวิตในหมู่บ้าน ความจริงรัฐต้องเต็มที่กว่านี้ ต้องขอบคุณท้องถิ่นที่พยายามช่วยกันอยู่ และเรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพยายามช่วย”

“ภาคใต้มีหลายแห่งที่มีภัยธรรมชาติ หน่วยงานที่เข้ามาช่วยจะเป็นหน่วยงานท้องถิ่น แต่หน่วยงานท้องถิ่นไม่ค่อยได้รับงบประมาณมา คือเราให้งบประมาณกับส่วนภูมิภาค ส่วนกลาง แต่คนที่ช่วยชาวบ้านจริงๆ คือท้องถิ่น เป็นสิ่งที่ท้องถิ่นน่าจะยกระดับ มีงบอุดหนุนให้มากขึ้นโดยเฉพาะพื้นที่ตรงนี้ เป็นพื้นที่น้ำท่วมเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ได้ท่วมแค่ปีเดียว”