คณะทำงานมูลนิธิชัยพัฒนา ติดตามความก้าวหน้าโครงการทหารพันธุ์ดีน่าน

คณะทำงานมูลนิธิชัยพัฒนา ติดตามความก้าวหน้าโครงการทหารพันธุ์ดีน่าน





ad1

น่าน – คณะทำงานมูลนิธิชัยพัฒนา ติดตามความก้าวหน้าโครงการทหารพันธุ์ดีน่าน ได้ขยายผลความมั่นคงทางอาหารและอาหารปลอดภัย สู่ชุมชนและโรงเรียน

พลเอกวิจักขฐ์  สิริบรรสพ ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา    พร้อมด้วย นายประวิทย์ บุญมี ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ และ คณะทำงานมูลนิธิชัยพัฒนา      ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงานโครงการทหารพันธุ์ดีน่าน และโครงการ “ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย และ" โครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง”  ที่ฐานปฏิบัติการแสงเพ็ญ กรมทหารพรานที่ 32  ต.ฝายแก้ว  อ.ภูเพียง  จ.น่าน

โดยมี หน่วยทหารมณฑลทหารบกที่ 38  หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32 และกองพันทหารม้าที่ 10 และ 15 กรมทหารม้าที่ 2  ได้รายงานผลการผลิตและเก็บเมล็ดพันธุ์ผักต่างๆ พัฒนาและคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ให้มีประสิทธิภาพ และการดำเนินงานการสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยทางอาหารให้ชุมชนในพื้นที่จังหวัดน่าน

ทั้งด้านเกษตรปลอดภัย ประมงและปศุสัตว์ ซึ่งมีกลุ่มเกษตรกรและผู้สนใจ นักเรียน นักศึกษา เข้าศึกษาดูงานและเรียนรู้ในฐานต่างๆ  โดยได้มีการขยายผล “โครงการชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย” ไปใน 16 โรงเรียน 5 อำเภอ ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งอาหารกลางวันให้กับโรงเรียนแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังความรู้ให้กับเด็กนักเรียนด้วย   ส่วนโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ได้ขยายผลไป 3 พื้นที่ ได้แก่ ตำบลถืมตอง อ.เมืองน่าน จำนวน 268 ครัวเรือน  ตำบลม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จำนวน 202 ครัวเรือน และ เขตเทศบาลเมืองน่าน จำนวน 417 ครัวเรือน

พล.อ.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า ในการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการทหารพันธุ์ดีน่าน และโครงการ "ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย"  และโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใยคนไทย โดยให้สร้างความมั่นคงทางอาหาร และอาหารที่ปลอดภัยให้กับชุมชน โรงเรียน ซึ่งบางพื้นที่อยู่ห่างไกลและทุรกันดาร

ดังนั้นแหล่งอาหารในระดับชุมชนจึงมีความสำคัญและจำเป็น ทั้งอาหารโปรตีนอย่างไข่ไก่ กบ ปลา และพืชผักพื้นถิ่นที่ปลอดสารเคมี ซึ่งนอกจากนำไปใช้เป็นวัตถุดิบประกอบอาหาร โดยเฉพาะอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน  ทำให้ช่วยลดรายจ่ายได้แล้ว  ยังนำไปสร้างเป็นอาชีพสร้างรายได้ในครัวเรือนได้อีกด้วย

ระรินธร เพ็ชรเจริญ ผู้สื่อข่าวจังหวัดน่าน