BRN ออกมายอมรับปูพรมบึ้ม-เผาสามจังหวัดชายแดนใต้ พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต

BRN ออกมายอมรับปูพรมบึ้ม-เผาสามจังหวัดชายแดนใต้ พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต





ad1

กอ.รมน. สรุปยอดความเสียหายจากเหตุลอบวางระเบิดเพลิงเผาร้านสะดวกซื้อ7/11และร้านมินิบิ๊กซี เพื่อสร้างสถานการณ์ 17 จุด พร้อมกันในพื้นที่ 3 จชต. ขณะที่ BRN ออกมายอมรับเป็นฝ่ายปฏิบัติการณ์ภายใต้เหตุผล3ข้อ พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่กองกำลัง BRN โจมตีสัญลักษณ์ของอำนาจทุนนิยมรัฐไทย

วันนี้(18 สิงหาคม 2565) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายไม่ทราบฝ่ายปฏิบัติการจู่โจมลอบวางระเบิดเพลิงภายในร้านสะดวกซื้อในเวลาพร้อมกันทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้หลังเวลาเที่ยงคืนของวัน17สิงหาคมที่ผ่านมา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของการพัฒนาด้านเศษฐกิจในพื้นที่ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 สำหรับ ความคืบหน้าล่าสุดจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดหัวจ่ายน้ำมันและเผาร้านสะดวกซื้อ7/11 ที่ปั๊ม ปตท.ปาเสมัส ตำบลสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาสเวลาจนกระทั่งเวลา 18.00น.เมื่อ วานนี้เจ้าหน้าที่ชุดEOD ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และชุดEODอโณทัย เข้าไปยิงทำลายถังแก๊สปิคนิคที่ประกอบระเบิด ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าตู้ATMข้าง7/11 ได้สำเร็จ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบด้านในของร้าน7/11 พบศพนายมะษาริช มามะ อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 103/1 หมู่3 ตำบลปูโยะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นลูกค้าที่เข้าไปซื้อสินค้าในร้าน7/11 ในช่วงเวลาเกิดเหตุ โดยเสียชีวิตอยู่ภายในร้าน

ทั้งนี้ได้มีผู้เห็นเหตุการณ์บอกเล่าว่าผู้เสียชีวิตได้เข้าไปภายในร้านหลังจากที่คนร้ายไล่พนักงานและลูกค้ารายอื่นออกไปแล้ว ด้วยความตกใจจึงพยายามที่จะหลบหนีออกไปทางประตูหลังแต่ไม่สามารถออกไปได้ จึงติดอยู่ในเปลวเพลิงด้านหลังร้าน

 กว่าจะสามารถลำเลียงศพออกจากที่เกิดเหตุได้ก็ทุลักทุเลพอสมควร เพราะต้องมีการตรวจหาวัตถุระเบิดภายในร้าน เมื่อเคลียร์พื้นที่เรียบร้อยก็จะส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลกที่เตรียมการรอไว้แล้ว เข้าไปรับศพออกมาเพื่อส่งชันสูตรและส่งมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ภายหลังเกิดเหคุ พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า/รองแม่ทัพน้อยที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ณ ปั้มน้ำมันบางจาก บ้านโคกกอดอนยาง หมู่ 8 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และร้านสะดวกซื้อ 7-11 บ้านเนียง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยคนร้ายได้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์กระจายพร้อมกัน 17 จุด ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 7 ราย ร้านสะดวกซื้อ ปั้มน้ำมัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก 

 พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า/รองแม่ทัพน้อยที่ 4 กล่าวว่า เป็นอีกหนึ่งความพยายามของกลุ่มคนร้ายที่ได้ สร้างสถานการณ์ก่อเหตุความรุนแรง ซึ่งได้มีการเตรียมการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนรอมฎอนสันติสุข และภายหลังเสร็จสิ้นเดือนรอมฎอน กลุ่มคนร้ายได้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ล่าสุดที่คนร้ายได้สร้างสถานการณ์ ทำลายภาพลักษณ์เชิงเศรษฐกิจ ก่อเหตุ สถานการณ์พร้อมกัน 3 จังหวัด ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส  รวมทั้งหมด 17 จุด

โดยพื้นที่ จังหวัดปัตตานี เกิดเหตุ 2 จุด ได้แก่  1. เกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ ปั้มน้ำมันบางจาก บ้านโคกกอดอนยาง ม.8 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี  2. เกิดเพลิงไหม้ มินิบิ๊กซี หมู่ 5 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี  พื้นที่จังหวัดยะลาเกิดเหตุ 6 จุด ได้แก่ 1. ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ปั๊ม ปตท.ยะหา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา 2. มินิบิ๊กซี สาขารามัน ตำบลกายูบอเกาะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา 3. ร้านสะดวกซื้อ 7 -11 หมู่ 2 ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา

 4. ร้านสะดวกซื้อ 7-11 บ้านเนียง หมู่ 4 ตำบลเปาะเส้ง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา 5.มินิบิ๊กซี บ้านบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา 6.ร้านสะดวกซื้อ 7-11 บ้านพงลูกา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา และพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เกิดเหตุ 9 จุด ประกอบด้วย 1.พื้นที่ อำเภอเจาะไอร้อง 2 จุด เกิดเพลิงไหม้ร้านสะดวกซื้อ7-11 และ มินิบิ๊กซี ซึ่งอยู่ติดกันในพื้นที่ บ้านเจาะไอร้อง หมู่ 1 ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส  3.ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ปั้ม ปตท.บาเจาะ ริมถนนเพชรเกษม 42 บ้านสะแต หมู่ 4 ตำบลบาเจาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส 4.ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ภายในปั้ม ปตท.ศรีสาคร เทศบาลตำบลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส 5.ร้าน สะดวกซื้อ 7-11 สาขาศรีสาคร บ้านคอลอกาแว อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส

6.ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ภายในปั้ม ปตท.ปาเสมัส เขตเทศบาลตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส 7.ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ตลาดต้นไทร อำเเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส 8.มินิบิ๊กซี สาขาข้างโรงพยาบาลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส 9.ร้านสะดวกซื้อ7-11 สาขารือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส  และปั๊มน้ำมันบางจาก ดอนยาง จังหวัดปัตตานี ถือเป็นจุดที่น่าจะได้รับความเสียหายมากที่สุด ที่คนร้ายได้มีการลอบวางระเบิดที่บริเวณรถบรรทุกน้ำมัน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับหัวจ่ายน้ำมันทำให้เกิดเหตุระเบิดและสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก

ภายหลังจากทราบเหตุการณ์ พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยดำเนินการตามมาตรการขั้นตอนที่ได้มีการกำหนดไว้ คือการเข้าควบคุมสถานการณ์ และพื้นที่เกิดเหตุในทุกจุดควบคู่ไปกับการประสานกับสถานีดับเพลิงทุกพื้นที่ในการช่วยกันดับเพลิง ซึ่งสามารถควบคุมสถานการณ์และพื้นที่เกิดเหตุได้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้   ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการนิรภัยพื้นที่ให้มีความปลอดภัย โดยชุด EOD ได้เข้าไปทำการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดมีการทำพื้นที่ให้ปลอดภัยโดยทางชุดพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปเก็บรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานเพื่อที่จะดำเนินการต่อกลุ่มคนร้ายต่อไป

 เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความพยายามของกลุ่มคนร้ายซึ่งขณะนี้ไม่สามารถสรุปปัจจัยที่เป็นมูลเหตุจูงใจว่าก่อเหตุด้วยปัจจัยใด แต่ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องการพูดคุย หรือประเด็นทางการเมือง รวมถึงความขัดแย้งอื่นๆ ซึ่งต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกอย่างละเอียด และรอบด้านถึงจะสามารถสรุปได้ว่ามูลเหตุจูงใจหรือปัจจัยในการก่อเหตุเกิดจากอะไร แต่สิ่งที่เป็นความเร่งด่วนขณะนี้ คือเรื่องการรวบรวมวัตถุพยานเพื่อนำไปสู่การพิสูจน์ทราบกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ด้วยการใช้มาตรการทางกฎหมาย รวมทั้งจะเร่งสำรวจความเสียหายในทุกจุด ทุกพื้นที่เพื่อนำไปสู่การให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบที่มีการกำหนดไว้ต่อไป

 ทั้งนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยึดมั่นในเจตนารมณ์เดิม คือการใช้แนวทางสันติวิธีในการแก้ไขปัญหา และการบังคับใช้กฎหมายจะดำเนินการด้วยความอดทน อดกลั้น และระมัดระวัง และหลังจากนี้จะต้องมีการปรับแผนในการใช้กำลังเรื่องการจัดจรยุทธ์เข้าควบคุมพื้นที่ที่ล่อแหลม และเสี่ยงภัยให้มากขึ้น และเรื่องการสร้างสภาวะแวดล้อมเพื่อให้เกื้อกูลและหนุนเสริมกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่

โดย พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ให้เร่งรัดสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด และเร่งคลี่คลายคดีด้วยการปรับแผนการรักษาความปลอดภัยโดยใช้บทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภายหลังจากการพูดคุยสันติสุขที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพุ่งเป้าไปที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์มากขึ้นโดยเฉพาะน้องชาวไทยพุทธ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายอ่อนแอ และเปราะบาง การก่อเหตุลักษณะดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อ ความรู้สึกของสังคมในวงกว้าง สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ในบทบาทของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะเร่งทวงคืนความยุติธรรมหรือการบังคับใช้กฎหมายเรื่องของการเยียวยาทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายและเรื่องการกำหนดมาตรการการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก ซึ่งจะได้ดำเนินการควบคู่อย่างเร่งด่วน


ล่าสุดเมื่อเวลาเที่ยงของวันนี้(18สค.65) BRN Barisan Revolusi Nasional Malayu Patani ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟสบุกส์ส่วนตัว ออกมายอมรับเป็นฝ่ายก่อเหตุความรุนแรงในการโจมตีสัญลักษณ์ของอำนาจทุนนิยมรัฐไทย ที่เข้ามาทำลายระบบเศรษฐกิจชุมชนปฏิบัติในครั้งนี้ภายใต้เหตุผล 3 ข้อ พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัว จากเหตุการณ์ที่กองกำลัง BRN โจมตีสัญลักษณ์ของอำนาจทุนนิยมรัฐไทย แม้การเสียชีวิตดังกล่าว เป็นเหตุสุดวิสัย  อันเนื่องมาจากทางหน่วยปฏิบัติการที่ลงมือ ได้ทำการเชิญให้พนักงานและลูกค้าผู้บริสุทธิ์ทุกท่านออกจากจุดเกิดเหตุแล้ว เหตุดังกล่าวทำให้ประชาชนเสียชีวิต ทางกองกำลัง BRN  ขอน้อมรับความผิดพลาดดังกล่าวอย่างสุดใจ

ทั้งนี้การโจมตีดังกล่าวเป็นการโจมตีเพื่อทำลายอำนาจทุนนิยมที่กำลังระบาดอย่างหนักในปาตานีซึ่งเป็นกลุ่มอำนาจรายเดียวที่กำลังจะทำลายระบบเศรษฐกิจของชุมชน  #ทำให้ร้านค้าชุมชนเป็นจำนวนมากที่ต้องปิดตัวลง 
โดยมีเนื้อหาเต็มดังนี้ขอความสันติสุข ความเมตตา และความจำเริญจากอัลลอฮฺจงประสบแด่ท่าน
แถลงการณ์ 
18 สิงหาคม 2022 เวลา 08.00 น.
ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่กองกำลัง BRN โจมตีสัญลักษณ์ของอำนาจทุนนิยมรัฐไทย 
#ที่เข้ามาทำลายระบบเศรษฐกิจชุมชน 
แม้การเสียชีวิตดังกล่าว เป็นเหตุสุดวิสัย #อันเนื่องมาจากทางหน่วยปฏิบัติการที่ลงมือ #ได้ทำการเชิญให้พนักงานและลูกค้าผู้บริสุทธิ์ทุกท่านออกจากจุดเกิดเหตุแล้ว
เหตุดังกล่าวทำให้ประชาชนเสียชีวิต ทางกองกำลัง BRN #ขอน้อมรับความผิดพลาดดังกล่าวอย่างสุดใจ
ทั้งนี้การโจมตีดังกล่าวเป็นการโจมตีเพื่อทำลายอำนาจทุนนิยมที่กำลังระบาดอย่างหนักในปาตานี
ซึ่งเป็นกลุ่มอำนาจรายเดียวที่กำลังจะทำลายระบบเศรษฐกิจของชุมชน  #ทำให้ร้านค้าชุมชนเป็นจำนวนมากที่ต้องปิดตัวลง


ทั้งนี้ร้านสะดวกซื้อดังกล่าวยังหลอกลวงผู้บริโภคด้วยวิธีการดังนี้
1.การแตกย่อยสาขาเพื่อเบียดเบียนผู้ซื้อเฟรนด์ไชของตน ด้วยการตั้งร้านให้ใกล้กันและใช้โปรโมชั่นที่ดีกว่า #ซึ่งผลสุดท้ายผู้ซื้อเฟรนด์ไชต้องปิดตัวลง
2.การใส่สิ้นค้าลอกเลียนแบบด้วยการทำแบรนด์ให้ใกล้เคียงกันทำให้ผู้บริโภคสับสน #เป็นการหลอกลวงผู้บริโภค
3.จำหน่ายสินค้าในราคาแพง โดยใช้การปรับลดนน.ของสินค้าให้ผู้บริโภครู้สึกสะดวกและเข้าใจว่าซื้อสินค้าในราคาถูก ยกตัวอย่าง เช่น น้ำตาลทราย 1  กิโลกรัม เท่ากับ 45 บาท แต่มีการแตกย่อยสินค้าเป็น 2.5 กรัมในราคา 15 บาท เมื่อรวมกันทั้งหมด เท่ากับ 60 บาท
#ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการบ่อนทำลายเจ้าของภาษีอย่างรุนแรง และ #การกระทำดังกล่าวในปัจจุบันมีรัฐบาลและกองทัพสยามไทยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมด

ด้านพลตรีคมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ได้กล่าว ว่า จังหวัดปัตตานีได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ความไม่สงบ จำนวน 2 จุด ได้แก่ ปั้มน้ำมันบางจาก แยกดอนยาง อำเภอหนองจิก และ มินิบิ๊กซี บ้าน นัดฆอมิส ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง โดยจุดแรก คนร้ายได้นำถังแก๊สบรรจุระเบิด มาวางในบริเวณ ปั้มน้ำมัน และรถบรรทุกน้ำมัน แล้วขับรถจักรยานยนต์หนีไป ก่อนหลบหนี ได้ไล่ประชาชน ให้ออกจากพื้นที่และเกิดระเบิดในเวลาต่อมา หลังจากนั้น หน่วยดับเพลิง ของ เทศบาลตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิกได้เข้ามาระงับเหตุ จนเพลิงสงบ

ส่วนจุดที่ 2 เป็นร้านสะดวกซื้อ มินิบิ๊กซี โดยคนร้าย ได้ทุบกระจก และ ใช้ไม้พันผ้าจุดไฟ แล้ว โยนเข้าไปข้างในจนเกิดเพลิงไหม้ ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทราบเรื่องจึงเข้ามา ระงับเหตุเพลิงไหม้ ระหว่างเกิดเหตุอยู่ในช่วงที่ร้านได้ปิดการให้บริการแล้ว คาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ไม่มีความมุ่งหวังต่อชีวิต   

ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ขีดกำลังความสามารถของหน่วยงานความมั่นคงของ จังหวัดปัตตานี สามารถป้องกันเหตุได้ในระดับหนึ่ง หลังจากนี้ไป ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการพิสูจน์ทราบ