ทลายเครือข่าย‘นายฮ้อยทมิฬ’ ยึดยาบ้าบิ๊กล็อต 7 ล้านเม็ด-อายัดทรัพย์รถหรูเพียบ

ทลายเครือข่าย‘นายฮ้อยทมิฬ’ ยึดยาบ้าบิ๊กล็อต 7 ล้านเม็ด-อายัดทรัพย์รถหรูเพียบ





ad1

‘รองฯรอย’แถลงผลงาน‘ปส.’ทลายเครือข่ายยาเสพติด 2 รายสำคัญ เฉพาะแก๊ง‘นายฮ้อยทมิฬ’ ยึดยาบ้าบิ๊กล็อต 7 ล้านเม็ด อายัดทรัพย์สินอีก 12 ล้านบาท รถหรูเพียบ

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. , พล.ต.ต.บรรพต มุ่งชอบกลาง ผบก.ปส.3 , นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ 2 คดี ผู้ต้องหา 5 ราย ยาบ้า 7 ล้านเม็ด และตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 12 ล้านบา

คดีแรกจับกุม น.ส.ศรัญญา หรือส้ม อายุ 35 ปี ข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทําความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดที่ได้สมคบกัน , ร่วมกันจําหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจําหน่ายอันเป็นการกระทําเพื่อการค้า , เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชนโดยเป็นการกระทำที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชน” จับกุมได้บ้านพักในหมู่บ้านพื้นที่หมู่ 1 ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

นายโชคพิพัฒน์ หรือโอ๊ค อายุ 35 ปี ข้อหา “ช่วยผู้อื่นหลบหนีการจับกุมซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ” โดยจับกุมได้บริเวณทางลงยกระดับคู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนี แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กทม. พร้อมตรวจยึดรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด ทะเบียนป้ายแดง , รถยนต์มาสด้า อาร์เอ็กซ์ 7 , รถยนต์ลัมโบร์กีนี อูรุส ทะเบียนป้ายแดง ,  รถยนต์ฮอนด้า แจ๊ส , รถยนต์ปอร์เช่ 911 จีที 2 อาร์เอส สีขาว , รถยนต์มิตซูบิชิ ทะเบียนนนทบุรี, รถยนต์นิสสัน สกายไลน์ อาร์ 32 , นาฬิกายี่ห้อต่างๆ , ที่พักอาศัยหมู่บ้านย่านราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมที่ดิน และ อาวุธปืน ขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุน

พล.ต.อ.รอย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. จับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด 2 ราย พร้อมยาบ้า 5 ล้านเม็ด , ไอซ์ 120 กิโลกรัม ส่งตัวมาดำเนินคดีที่ บช.ปส. จากนั้นกองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด (บก.ขส.) ใช้ระบบฐานข้อมูลสืบสวน ขยายผลจนทราบว่า น.ส.ศรัญญา มีเครือข่ายเชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน สามารถนำยาเสพติดเข้ามาประเทศไทยได้ครั้งละมากๆ ทั้งยาบ้า ไอซ์ คีตามีน ส่วนนายโชคพิพัฒน์ แฟนหนุ่ม เพิ่งพ้นโทษในคดียาเสพติดมาเมื่อปี 2563 มีพฤติการณ์ในการติดต่อกับเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ ทั้งสั่งนำเข้ายาเสพติด และกระจายของไปให้ลูกค้าในเครือข่ายเขตกทม.และปริมณฑล จึงนำพยานหลักฐานไปสู่การขอศาลออกหมายจับ น.ส.ศรัญญา และนายโชคพิพัฒน์

คดีที่ 2 จับกุม นายสมภพ อายุ 42 ปี , นายพันธ์เทพ อายุ 29 ปี และ นายสมโภชน์ อายุ 37 ปี ข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”

ทั้งนี้ ตรวจยึดยาบ้าประมาณ 7 ล้านเม็ด , รถยนต์กระบะ ทะเบียนสระบุรี, รถบรรทุกสิบล้ออีซูซุ ทะเบียนชัยนาท , รถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร, โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง , บ้านพร้อมที่ดินใน ต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท , บ้านพร้อมที่ดิน ต.โพงาม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท , โฉนดที่ดินใน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท , รถยนต์บรรทุกสิบล้อ สีฟ้า หมายเลขทะเบียนเพชรบุรี, รถยนต์บรรทุกสิบล้อ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร, รถยนต์กระบะอีซูซุ ทะเบียนชัยนาท , รถยนต์กระบะเชฟโรเลต ทะเบียนชัยนาท , รถยนต์กระบะนิสสัน ทะเบียนเลย และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทะเบียนกรุงเทพมหานคร รวมมูลค่าประมาณ 12,000,000 บาท

พล.ต.อ.รอย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนทราบว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดเครือข่าย “นายฮ้อยทมิฬ” ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนพื้นที่ จ.เชียงราย ส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ภาคกลาง จึงสืบสวนติดตามจนวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 ตรวจยึดยาบ้า 35 กระสอบ รวมจำนวนประมาณ 7 ล้านเม็ด ที่บริเวณถนนหน้าบ้านในหมู่ 10 ต.บ้านหีบ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน บก.ปส.3 บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย และสืบสวนสอบสวนขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง พร้อมสืบสวนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในรอบปีงบประมาณยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดกว่า 5,000 ล้านบาทแล้ว

ด้านนายมานะ กล่าวว่า เมื่อผู้ต้องหาทั้ง 3 รายถูกจับกุมจะขยายผลต่อไป โดยมอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ส. สืบสวนเรื่องของทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ใช้มาตรการยึดทรัพย์สินตามมูลค่า ตรวจสอบว่าถ้าทำความผิดจริงและที่ผ่านมามีรายได้จากยาเสพติด จะดำเนินการขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินต่อไป