ผกก.สภ.พะวอ ออกหมายจับผู้ต้องหา-เจ้าของรถแก๊งขนแรงงานต่างด้าว

ตาก-ผกก.สภ.พะวอ ระบุ ทราบตัวผู้ต้องหา และเจ้าของรถแล้วเตรียมออกหมายจับ ขบวนการขนแรงงานต่างด้าว

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2565 ที่ ศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) สภ.พะวอ  อ.แม่สอด จ.ตาก  พ.ต.อ.นนทวร สี อินทร์ "พะวอ 1." ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพะวอ(สภ.พะวอ) อ.แม่สอด ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ รองผกก.สอบสวน ,รอง.ผกก.ป. ,รองผกก.สืบสวน,สวป.,สว.สืบสวน. พนักงานสอบสอบสวน ทั้งนี้เพื่อติดตามผู้กระทำผิดขับรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ฮ้ออีซูซุ สีเทา หลบหนีการตรวจที่จุดตรวจความมั่นคงบ้านห้วยยะอุ หมู่ที่ 4 ถนนสาย อ.แม่สอด-อ.เมืองตาก ตำบลด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด 

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสกัดจับกุมจนขับรถวนไปมาบริเวณจุดตรวจ และตามไปจนถึงบ้านปางควาย ตำบลด่านแม่ละเมาห่างจากถนนหลัก 28 กิโลเมตร และคนร้ายสามารถหลบหนีไปได้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจยึดรถยนต์พบแรงงานต่างด้าวจำนวน 9 คน อยู่ท้ายรถกระบะในจำนวนนี้มีแรงงานต่างด้าวถูกกระสุนปืนได้บาดเจ็บเล็กน้อย 4 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เยียวยาดูแลรักษาจนออกจากโรงพยาบาลแม่สอดแล้ว

พ.ต.อ.นนทวร สีอินทร์ ผกก.สภ.พะวอ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการนำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเข้าพื้นที่ชั้นในของประเทศ โดยหลักเลี่ยงจุดตรวจความมั่นของผู้ขับหนีนั้น มีความชำนาญพื้นที่มาก ส่วนการที่มีภาพปรากฏในคลิปปรากฏตามสื่อต่างๆนั้นที่ตำรวจใช้อาวุธปืนนั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ทางผู้บังคับบัญชาให้ติดตามตัวผู้ต้องหาให้ได้ ในส่วนของสภ.พะวอได้มีการประชุมติดตามคดีนี้ และทราบตัวแล้วว่า ผู้ขับรถยนต์ที่ก่อเหตุในพื้นที่เป็นใคร ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ นอกจากนี้ยังทราบภายหลัง ส่วนกรณีที่ยิงใส่รถยนต์นั้น ทางเจ้าหน้าที่ต้องยิงป้องกันตัว เพราะรถของผู้หลบหนีถอยมาชน จะทำให้ตกเขาได้ และเมื่อยึดรถยนต์ได้ ทราบว่า มีคนต่างด้าวอยู่ในกระบะท้ายรถยนต์คลุมผ้าใบอยู่ ในระหว่างไล่จับ เจ้าหน้าที่ไม่ทราบเลยว่า รถที่หนีไปทำผิดกฎหมายอะไรมา ขนต่างด้าว  ค้ายาเสพติด หรืออะไร 

พ.ต.อ.นนทวร สีอินทร์ ผกก.สภ.พะวอ กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พะวอ ได้รับสั่งให้เข้มงวดเรื่องการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาตามคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และกองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตาก จึงมีการเข้มงวดทั้งถนนสายหลัก และถนนสายรอง ทำให้ขบวนการขนแรงงานผิดกฎหมายใช้ทางเลี่ยงด่านจนมีการสกัดจับ