โฆษกตร. ระบุพบตำรวจท่องเที่ยวอีก 1 คน ประสานงานกับบริษัททัวร์ ติดต่อให้จัดตำรวจอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่ลงเครื่องบิน จนถึงขับรถนำไปที่พัก

ขับรถตร.นำนักท่องเที่ยว

โฆษกตร. ระบุพบตำรวจท่องเที่ยวอีก 1 คน ประสานงานกับบริษัททัวร์ ติดต่อให้จัดตำรวจอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่ลงเครื่องบิน จนถึงขับรถนำไปที่พัก





ad1

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุพบตำรวจท่องเที่ยวอีก 1 คน ประสานงานกับบริษัททัวร์ ติดต่อให้จัดตำรวจอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่ลงเครื่องบิน จนถึงขับรถนำไปที่พัก โดยล่าสุดตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมแจ้งข้อหากับตำรวจจราจรใช้รถส่วนตัวดัดแปลงเป็นรถนำขบวน

วันนี้ 23 ม.ค.66 พลตำรวจตรีอาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่มีนายตำรวจ 3 นาย คือ ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจจราจร อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวจีนที่สนามบินสุวรรณภูมิ และขับรถนำไปที่พัทยา จังหวัดชลบุรี

จากการสอบสวนเพิ่มเติมพบว่ามีตำรวจท่องเที่ยวเกี่ยวข้องเพิ่มอีก 1 นาย ยศดาบตำรวจ โดยเป็นผู้ติดต่อประสานงานกับชายคนหนึ่งที่ทำทัวร์ในไทย และอ้างว่าไปรู้จักกันที่งานแห่งหนึ่ง ก่อนจะติดต่องานอำนวยความสะดวกพิเศษกับนักท่องเที่ยวมาให้ จากนั้นก็ได้ติดต่อให้ร้อยตำรวจเอกสมพล ภิญโญสโมสร ตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 เป็นคนเข้าไปรับที่สนามบิน และพามารับกระเป๋าเดินทาง ก่อนจะพาเข้าช่องพิเศษของด่านตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นก็ได้ประสานกับสิบตำรวจเอกธนกร นุกูลธนกิจ และ สิบตำรวจเอกธนวัฒน์ สิมะขจรบุญ สังกัดกองบังคับการตำรวจจราจร เป็นผู้ขับรถนำขบวนออกจากสนามบิน  

ขณะนี้ทั้งสองหน่วยงานได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และได้แจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจจราจร 2 นาย ในความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก และพ.ร.บ.เครื่องหมายราชการ เนื่องจากพบว่ารถจักรยานยนต์ และรถยนต์ที่นำไปใช้เป็นรถส่วนตัว แต่ได้ตกแต่งติดไซเรน และเครื่องหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต  

ขณะเดียวกันก็เตรียมเรียกชายคนที่ว่าจ้าง และติดต่อตำรวจให้มารับงานนี้ และนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีเพิ่มเติม นอกจากนั้นยังได้พิจารณาตรวจสอบคำแปลภาษาไทยของภาษาจีนในคลิปว่าแปลถูกต้องหรือไม่ หรือมีส่วนใดไม่ตรงกับความเป็นจริง


นอกจากนั้นจเรตำรวจแห่งชาติ จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพิ่มเติมในรูปแบบคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อที่จะพิจารณาดำเนินการลงโทษทั้งทางวินัย และอาญา

สำหรับค่าจ้างของตำรวจที่มารับงานพิเศษทั้งหมดนี้ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าจะได้รับ 7,000 บาท ตามที่นักท่องเที่ยวอ้างไว้ในคลิปหรือไม่ ส่วนเงินจำนวน 200 บาทที่ยื่นให้นั้น เบื้องต้น ตำรวจอ้างว่าเป็นเงินที่นักท่องเที่ยวให้ไว้จ่ายค่าทางด่วน

ซึ่งเรื่องนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้สอบสวนทุกมิติว่าเรื่องนี้มีการทำเป็นขบวนการหรือไม่ รวมทั้งตำรวจกลุ่มนี้รับงานพิเศษแบบนี้มานานแล้วแค่ไหน ส่วนการที่แต่งเครื่องแบบตำรวจไปให้บริการจะเข้าข่ายผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่นั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา

ส่วนกรณีที่พบว่าหนึ่งในตำรวจจราจรขับรถนำขบวนนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนั้น จากการสอบสวนพบว่า เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายดอน เป็นการรับงานพิเศษส่วนตัวของตำรวจกลุ่มนี้

สำหรับการขออนุญาตใช้รถนำขบวน ตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2544 ระบุไว้ชัดเจนว่าต้องขออนุญาตใช้โดยผ่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยแบ่งเป็นรถที่ใช้นำขบวนตามปกติ และใช้เป็นครั้งคราว ซึ่งต้องได้รับการอนุญาตจากผู้บังคับการตำรวจจราจร ในเขตกรุงเทพมหานคร และผู้บังคับการตำรวจทางหลวงในต่างจังหวัด ซึ่งก็จะอนุมัติเป็นรายๆ ไป ส่วนผู้ที่จะขออนุญาตใช้รถนำได้จะต้องเป็นการเดินทางที่เป็นหมู่คณะ มีรถจำนวนหลายคัน ไม่สามารถให้บริการกับนักท่องเที่ยวส่วนบุคคลได้.