เปิดแผนการว่ายน้ำข้ามโขงของ ‘โตโน่’ ว่ายข้ามโขง 7 ชม. ระยะทาง 15 กม. ว่ายตามน้ำ แวะพักหลายจุด

เปิด แผนการว่ายน้ำข้ามโขงของ ‘โตโน่’

เปิดแผนการว่ายน้ำข้ามโขงของ ‘โตโน่’ ว่ายข้ามโขง 7 ชม. ระยะทาง 15 กม. ว่ายตามน้ำ แวะพักหลายจุด





ad1

22 ต.ค. 2565  เปิด แผนการว่ายน้ำข้ามโขงของ ‘โตโน่’ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ จะไม่ใช่การว่ายรวดเดียว ข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว แต่จะแวะพักทำกิจกรรมฝั่งไทยก่อน 2 จุด ก่อนจะว่ายข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว

จุดแรก เวลา 10.09 น บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช นครพนม ซึ่งเป็นจุดหลักในการจัดกิจกรรม และเป็นจุดที่ ‘โตโน่’ จะเริ่มลงว่ายน้ำ โดยจะว่ายเลียบแม่น้ำโขงฝั่งไทย ไหลไปตามกระแสน้ำ ระยะทาง 800 เมตร มาถึงที่ ท่าน้ำวัดกลาง
‘โตโน่’ จะขึ้นฝั่ง มาทักทายประชาชนทำกิจกรรมรับบริจาค ใช้เวลาราว 15 นาที
จุดที่สอง ว่ายน้ำจากท่าวัดกลาง ว่ายเลียบแม่น้ำโขงฝั่งประเทศไทย ไปที่ท่าน้ำ ศาลาแสงสิงแก้ว ระยะทางจากจุดแรก มาจุดนี้ ระยะทาง400เมตร เมื่อว่ายมาถึงก็จะขึ้นบนฝั่งมาทำกิจกรรมรับบริจาค ใช้เวลาราว 15 นาที
จุดที่ 3 จุดนี้คือไฮไลท์ ว่ายน้ำจากศาลาท่าน้ำแสงสิงแก้ว ตัดไปแนวเฉียง ไปริมฝั่ง สปป.ลาว แล้วว่ายต่อไปขึ้นฝั่ง ที่วัดพระธาตุศรีโคดตะบอง ทำกิจกรรมที่วัดพระธาตุศรีโคดตะบอง
จากนั้น เดินทางไปพบทีมแพทย์พยาบาล รพ.แขวงคำม่วน แล้วกลับไปพักร่างกาย ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชม.
จากนั้นทีมงาน จะพา โตโน่’ นั่งรถตู้มาที่ ท่าน้ำ หาดบ้านนาเมือง ฝั่ง สปป.ลาว จุดนี้จะเป็นการว่ายกลับมาที่ลานพญาศรีสัตตนาคราช ฝั่งไทย ระยะทาง 6 กิโลเมตร จุดนี้จะต้องพยายามว่ายตัดกลับมาฝั่งไทยเร็วที่สุด เพราะหากไม่รีบ เสี่ยงที่จะถูกกระแสน้ำจะพัดพา เลยจากจุดลานพญาศรีสัตตนาคราชไป
รวมระยะทางทั้งหมด 15 กิโลเมตร เป็นการว่ายตามกระแสน้ำทั้งหมด
วานนี้ 21 ตค.65 ‘โตโน่’ กล่าวว่า การว่ายน้ำครั้งนี้เป็นระยะทางไกล ยอมรับว่ามีอุปสรรคบ้าง ทั้งเรื่องการสภาพอากาศ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ รวมถึงการขึ้นจากน้ำ มาบนบก มาทำกิจกรรมในแต่ละจุด ซึ่งจะส่งผลกับอุณหภูมิร่างกายแน่นอน
อีกทั้ง สภาพของกระแสน้ำ จะพบกับน้ำ 3 แบบ คือ
-ฝั่งริมชายฝั่งไทย จุดนี้ไหลตามกระแสน้ำ ช่วงนี้จะเป็นเหมือนการวอร์มร่างกาย
-กระแสน้ำช่วงว่ายตัดผิวน้ำนิ่ง แต่ชั้นใต้น้ำจะไหลแรงต้องใช้แรงมาก ไม่เช่นนั้นจะถูกน้ำพัด ไหลออกจากจุดที่กำหนดไว้
-กระแสน้ำตอนว่ายกลับ ช่วงเย็น น้ำจะไหลเชี่ยวแรงต้องใช้แรงเยอะ
จุดแรกเป็นน้ำริมตลิ่งฝั่งไทยจากลานพญานาค พญาศรีสัตตนาคราช ไปวัดกลาง ระยะทาง 800 เมตร จุดนี้น้ำจะไม่แรงมาก คล้ายเป็นการวอร์มร่างกาย ว่ายไปขึ้นท่าน้ำวัดกลาง ทำกิจกรรมรับบริจาคและพบปะประชาชน ใช่เวลา 15 นาที
จุดที่2 ว่ายน้ำ จากท่าน้ำวัดกลาง ไปลานกิจกรรม ศาลาแสงสิงแก้ว เพื่อพบปะประชาชนและรับบริจาค ระยะทางจากท่าน้ำวัดกลางมา ศาลาแสงสิงแก้ว ระยะทาง 400 เมตร
และ จุดต่อไป จะว่ายจากท่าน้ำศาลาแสงสิงแก้ว ไปจุดตัด ว่ายไปที่ วัดพระศรีโคตะบอง ระยะทาง4กิโลเมตร จุดนี้จะอันตรายที่สุด ช่วงว่ายตัดแม่น้ำ ต้องใช้แรงมาก เพราะผิวน้ำจะนิ่ง แต่ชั้นใต้น้ำไหลแรง โตโน่ระบุว่า แม้จุดนี้จะกังวล แต่ไม่ใช่ปัญหา จากการสำรวจข้อมูลทั้งทิศทางน้ำและลม เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาใดๆ แม้จะเป็นจุดตัดที่มีระยะทาง 4 กิโลเมตร หากว่ายน้ำช้าหรือหมดแรงจะทำให้ถูกน้ำพัดไป
เมื่อขึ้นฝั่งที่ลาว จะไหว้พระธาตุศรีโคตะบอง ก่อนพบปะพี่น้องชาวลาวและเยี่ยมโรงพยาบาลแขวงคำม่วน ซึ่งจะมีศิลปินของประเทศลาว จะแสดงคอนเสิร์ตร่วมกิจกรรมนี้ด้วย หากตนยังไหว จะร่วมแสดงบนเวทีด้วย
เมื่อเสร็จกิจกรรมที่ สปป.ลาว ก็จะเข้าพักรับประทานอาหารและพักร่างกายที่โรงแรม บนฝั่งลาว โดยใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง จากนั้นจะนั่งรถตู้ไปยังท่าน้ำหาดบ้านนาเมือง เพื่อว่ายน้ำกลับมาลานพญานาคฝั่งไทย เป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร
ซึ่งอยากว่ายให้ถึงไทยก่อน 5 โมงเย็น เพราะกระแสน้ำในช่วงเย็นน้ำจะไหลเชี่ยวกว่าตอนกลางวัน
ทั้งนี้ โตโน่บอกว่า การว่ายน้ำนี้ หากเกิดอันตรายขึ้นกับทีมงาน ก็ยินดีที่จะรับผิดชอบ เพราะทุกคนเต็มใจมาร่วมงาน เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ และเงินที่รับบริจาคมาจะเป็นแรงและพลังในการว่ายน้ำ ช่วงที่ว่ายน้ำ หากอ่อนล้า หรือเหนื่อย จะนึกถึงเงินบริจาคที่ทุกคนช่วย เสียงตะโกนที่บอกมห้สู้ๆและกำลังใจทุกคน จะทำให้ มีแรงเหวี่ยงไหล่เพื่อว่ายน้ำต่อไป
“ไม่ว่าวันนี้(22ตค)จะเป็นอย่างไร ก็ยินดีที่จะพบเจอ ยอมรับว่าตื่นเต้น ไม่รู้จะนอนหลับหรือไม่ การเตรียมร่างกายก็ไม่มีอะไรมาก ทีมงานบอกให้กินอาหารเยอะๆ ตอนนี้มีกำลังใจเต็มเปี่ยม
ส่วนเรื่องสุขภาพ โดยรวมก็ปกติ แต่มีอาการไอ ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลเมื่อครั้งก่อน แต่ตอนอยู่ในน้ำไม่ไอ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากระหว่างที่ว่ายน้ำ ไม่ไหว หรือเกิดเหตุการณ์ที่ ทำให้ไม่ได้ว่ายต่อ จะทำอย่างไร
โตโน่บอกว่า “ถ้าไม่ไหวก็คือไม่ไหว แต่จะทำให้ดีที่สุด”
โดยจะมีเพื่อน 4 คน คอยสลับกันว่ายตามตน ซึ่งจะคาด บุย เซฟตี้ ที่มีลักษณะ คล้ายลูกโป่งสีสะท้อนแสง ลอยน้ำไว้ช่วงพัก และหากหมดแรงก็จะกอดบุยเซฟตี้ไว้ หรือตอนพักกินกล้วย กินน้ำ
ขอบคุณ พี่สรยุทธ กรรมกรข่าว