สลด!แม่มัดลูกพิการกับเอวโดดแม่น้ำปราจีนฯฆ่าตัวตายคู่

สลด!แม่มัดลูกพิการกับเอวโดดแม่น้ำปราจีนฯฆ่าตัวตายคู่





ad1

ปราจีนบุรี - พ่อเหยื่อแจงก่อนหน้ามีลูก 3 คน คนโตเสียชีวิตได้กว่า 10ปี ส่วนลูกคนเล็กป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ตั้งแต่อายุ 8 เดือน ไปรักษาที่ รพ.ศิริราช ตลอดมา ปัจจุบัน ตาบอด2ข้าง  ขาลีบเดินไม่ได้ ครั้งสุดท้ายไปนอนพักรักษาตัวที่ รพ. 5 เดือน และกลับมาอยู่บ้านได้ 3 วัน ก่อนเสียชีวิต

ร.ต.อ.ประสิทธ์  ธงศรี   รอง สว.สอบสวน สภ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี  ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน จ.ปราจีนบุรี   พบศพแม่ลูกจมน้ำเสียชีวิต  สถานที่เกิดเหตุริมแม่น้ำปราจีนบุรีหลังบ้านเลขที่ 33 ม.1ซอย 5  ต.บางกระเบา อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นและพร้อมด้วย พ.ต.อ.มงคล  โท้เป๋า ผกก.สภ.บ้านสร้าง , ทีมแพทย์เวรฯนิติเวช รพ.บ้านสร้าง รีบไปตรวจสอบ

ห่างถนน สายปราจีนบุรี – บ้านสร้าง (เก่า ) เป็นซอยเข้าไปเป็นถนนลูกรังประมาณ 1 กิโลเมตร   ที่ด้านหลังบ้าน ปูน ชั้นเดียว   ห่างไป 50 เมตรเศษ  ที่ริมแม่น้ำปราจีนบุรี    ศพผู้เสียชีวิตพบศพผู้เสียชีวิต 2 แม่ลูกคือนางบุญโฮม ดาวัลย์ อายุ 51 ปี และลูกสาว.ด.ญ.โสพิศตา ดาวัลย์ อายุ 6 ขวบ  เห็นแล้วชวนสลดใจ  โดยศพแม่สวม ใส่เสื้อสีชมพูกางสีดำขาสามส่วน นอนตะแคงขวา  ใกล้ๆ กันประมาณ 1 เมตร  พบศพลูก  สวมเสื้อยืดสีชมพูกางเกงขาสั้นสีชมพู    ที่จมูกยังมีสายออกซิเจน ติดคาอยู่ สภาพนอนตะแคงซ้ายหันหน้าเข้าหากัน กับแม่   โดยที่เอวของทั้ง 2 ศพถูกมัดติดกันผ้าขาวม้าผูกโยงติดกับต้นไม้ริมแม่น้ำคาดว่าเสียชีวิตมานานกว่า 6 -8 ชั่วโมงตรวจสอบไม่พบบาดแผล หรือการต่อสู้ป้องกันตัวและร่องรอยถูกทำร้าย โดยระหว่างเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพได้ยินเสียงหมาหอนโหยหวนมาแต่ไกลโดยรอบ   

พ.ต.อ.มงคล  โท้เป๋า ผกก.สภ.บ้านสร้าง กล่าวว่า   “ จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสมหมาย  ดาวัลย์ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นสามี  และ  บิดาของผู้ตายทั้งคู่  กล่าวว่า     “   ได้กลับจากทำงานที่อู่ซ่อมรถหลังโรงงานนกนางนวล    มาพร้อมกับลูกชายคนโต (อายุ 10ขวบ)  มาถึงบ้านเกิดเหตุประมาณ21.00 น.    ไม่พบภรรยาและลูกสาว    จึงส่องไฟเดินตามหา รอบบ้านนานประมาณ 1 ชั่วโมง   จนพบศพภรรยานางบุญโฮม ดาวัลย์ อายุ 51 ปี และลูกสาว.ด.ญ.โสพิศตา ดาวัลย์ อายุ 6 ขวบ จมน้ำเสียชีวิตแล้ว ช่วงเวลาประมาณ22.00 น.   จากนั้นตรวจพบจดหมายลาตาย ของภรรยาแปะไว้ที่กล่องกระดาษภายในบ้าน 

ซึ่งก่อนหน้าลูกสาวป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ตั้งแต่อายุ 8 เดือน   ไปรักษาที่ รพ.ศิริราช ตลอดมา ปัจจุบัน ตาบอด2ข้าง ขาลีบเดินไม่ได้ ครั้งสุดท้ายไปนอนพักรักษาตัวที่ รพ. 5 เดือน และกลับมาอยู่บ้านได้ 3 วัน ก่อนเสียชีวิต      ญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ไปจัดการตามประเพณี ที่วัดบางกระเบา ต่อไป”  พ.ต.อ.มงคล  กล่าว

ด้านนายปริวรรต   แก้วกล่าว  อายุ 42 ปี   กล่าวว่า  “ตนเป็นนายจ้างของสามีผู้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุได้รับแจ้งจากทางสามีของผู้เสียชีวิต ช่วงเวลา22.00 น.จึงโทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ภัยฯ  สามีของผู้ตายเป็นลูกจ้างอยู่ที่อู่ตนเอง   ก่อนเกิดเหตุไปทำงานตามปกติตอนเย็นไปรับลูกกลับจากโรงเรียนที่โรงเรียน วัดบางกระเบา   

ก่อนหน้าทางฝ่ายสามีทำงานที่อู่เลิกงาน   ไปรับลูกชายแล้ว  มานั่งดื่มสังสรรค์กับเพื่อนเพื่อนคนงานอู่ซ่อมรถจน 21:00 น. กลับมาบ้านไฟปิด แล้วก็เดินตามหาภรรยาจึงพบศพ   

ก่อนหน้านั้นทั้งสามีและภรรยามีลูก 3 คน    คนโตเป็นชายเสียชีวิตเมื่อ 10 ปีก่อนหน้า    ล่าสุด ลูกสาวคนเล็กป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ตั้งแต่อายุ 8 เดือน   ได้ทำการรักษาโดยต่อเนื่องมาโดยตลอดและเพิ่งออกจากโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯหลังจากการผ่าตัดพบว่า ลูก สาวไม่สามารถเดินได้และประสาทตาพิการมองไม่เห็น    เมื่อวานพบพาบุตรสาวไปลาออกที่โรงเรียนเนื่องจากเด็กเดินไม่ได้และสายตาพิการ   คาดว่าเกิดความเครียดจนก่อเหตุ สลดดังกล่าว จนใช้ผ้าขาวม้ามัดผูกเอวลูกโดดน้ำสลดใจแก่ผู้พบเห็นดังกล่าว”นายปริวรรต   กล่าว