ม็อบ9ตุลา ผู้ชุมนุมห่มธงไพรด์อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เยาวชนประกาศโกนผมจนกว่านายกรัฐมนตรีจะลาออก

ม็อบ 9 ต.ค.

ม็อบ9ตุลา ผู้ชุมนุมห่มธงไพรด์อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เยาวชนประกาศโกนผมจนกว่านายกรัฐมนตรีจะลาออก





ad1

#ม็อบ9ตุลา ผู้ชุมนุมห่มธงไพรด์อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เยาวชนประกาศโกนผมจนกว่านายกรัฐมนตรีจะลาออก ด้านตำรวจสลายผู้ชุมนุมอิสระที่แยกผ่านฟ้า มีรายงานจับกุมไม่น้อยกว่า 7 คน

เมื่อวันที่วันที่ 9 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 15.40 น. ขบวนของกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกเคลื่อนมาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อมากลุ่มทะลุฟ้านำธงไพรด์ห่มอนุสาวรียประชาธิปไตย และเวลา 16.07 น. กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกเดินขบวนขึ้นมาบนหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและตะโกนร่วมกันว่า "ปิตาธิปไตยจงฉิบหาย ความเป็นธรรมหลากหลายจงเจริญ” จากนั้นปักธงรอบอนุสาวรีย์

มีรายงานว่า ตำรวจแจ้งว่า ไม่ให้ผู้ชุมนุมปิดการจราจร แต่ผู้ชุมนุมยังคงปิดการจราจรเพื่อตั้งเวทีบริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากนั้นตำรวจมาบอกให้เปิดพื้นที่พอให้รถสัญจรได้ ไม่เช่นนั้นจะใช้กำลังตำรวจควบคุมฝูงชน จนถึงปัจจุบันกิจกรรมยังคงจัดต่อไปได้

ภายในงานมีการปราศรัยเช่น ฟิวส์-พีรพล จากกลุ่มปฏิวัติการศึกษาไทยในหัวข้อ ศีลธรรมอันดีกับการศึกษาในโรงเรียน ระบุว่า เหตุที่ประเทศไทยต้องให้เปิดกว้างเรื่องความหลากหลายทางเพศ เนื่องจากโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่เพศหญิงหรือชาย เต็มไปด้วยความหลากหลายและทุกคนคือคนที่มีความเท่าเทียมกัน ในระหว่างที่ปราศรัยมีการแสดง Perfomance art ด้วยการราดสีแดง เหลือง ส้ม บนร่างกาย ก่อนจะถอดวิกผมยาวออก

ปูน-ธนพัฒน์ กาเพ็ง จากกลุ่มทะลุฟ้ากล่าวถึงเรื่องผู้ใช้เสรีภาพในการแสดงออกและถูกจองจำระหว่างการพิจารณาคดีมาตรา 112  จากนั้นโกนหัวต่อหน้ามวลชนและยังมีการโกนหัวจากมีมี่ เยาวชนจากกลุ่มเด็กปากแจ๋ว เธอกล่าวว่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปขอประกาศว่า จะขอโกนหัวจนกว่าประยุทธ์จะลาออก และหนูก็อาจจะโกนต่อไป ถ้าคนที่ขึ้นต่อมาเป็นเผด็จการ หากหนูต้องโกนผมและต้องโกนตลอดชีวิตก็ขอให้มันเป็นสัญลักษณ์ว่าประเทศเราไม่เคยมีประชาธิปไตยเลย ผมของหนูขึ้นใหม่ได้แต่ชีวิตคนที่เสียไป เอากลับมาไม่ได้ รัฐบาลเฮงซวย

ต่อมาฟ้า-พรหมศร วีระธรรมจารี ราษฏรมูเตลู ปราศรัยถึงสภาพในเรือนจำที่ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็จะถูกตัดผม ความเป็นอยู่ยากลำบากโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงในตอนที่ต้องมีประจำเดือน ระหว่างการปราศรัยเขาร้องไห้จนต้องหยุด ต่อมาเวลา 19.10 น. ที่แยกสะพานผ่านฟ้า มีผู้ปาพลุเข้าไปบริเวณถนนราชดำเนินนอกที่ตำรวจปิดเส้นทางไว้  ตำรวจมีการยิงแก๊สน้ำตาออกมา 3 ครั้ง ด้วยเหตุนี้ผู้จัดกิจกรรมจึงประกาศยุติการชุมนุมในทันที เมื่อสอบถามผู้ชุมนุมทะลุแก๊ซคนหนึ่งระบุว่า คนที่ปาพลุครั้งแรกไม่ใช่กลุ่มทะลุแก๊ซ สังกัดกลุ่มใดไม่ทราบแน่ชัด

เวลา 19.20 น. มีผู้ชุมนุมอยู่ที่บริเวณแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศและมีการปาประทัดเป็นระยะ ต่อมาเวลา 19.35 น. มีการเผายางที่บริเวณหน้าป้ายแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ฝั่งทางเข้าวัดปรินายก

เวลา 19.40 น. ที่แยกสะพานผ่านฟ้า สถานการณ์สงบลง มีการยิงเลเซอร์จากบริเวณฝั่งสปก.เข้ามาที่บริเวณแยกสะพานผ่านฟ้า แต่ไม่ปรากฏการแสดงกำลังของตำรวจ

เวลา 19.45 น. ตำรวจประกาศแจ้งเตือนว่า การกระทำของท่านในตอนนี้เป็นการสร้างสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความรุนแรง การกระทำของท่านในตอนนี้เป็นการกระทำตามประมวลกฎหมายอาญาทำลายทรัพย์สิน ทำร้ายเจ้าหน้าที่และละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯขอให้ยุติการชุมนุมในเวลานี้ ถ้าไม่ยุติจะบังคับใช้กฎหมายตามหลักสากลและตามที่คณะรัฐมนตรีให้อำนาจไว้

ขอให้สื่อมวลชนอยู่ในแนวที่ปลอดภัยจากกลุ่มก่อเหตุและให้ไปอยู่ที่วัดภูเขาทอง  ตอนนี้ไม่ใช่การชุมนุมแล้วเพราะแกนนำประกาศยุติกิจกรรมแล้ว แต่มีกลุ่มคนบางคนพยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงในบ้านเมือง ขอให้แยกให้ชัดเจน ข้ามไปอยู่วัดภูเขาทองทั้งหมด ผู้ชุมนุมกลุ่มมอเตอร์ไซด์เริ่มกลับมาที่แยกผ่านฟ้า มีการบีบแตรเป็นระยะ

ตำรวจประกาศว่า จะเข้าไปดับเพลิง ขอให้อยู่ห่างแนวแยกผ่านฟ้าและไม่ต้องตกใจ เวลา 19.49 น. รถฉีดน้ำออกมาดับเพลิงที่เผา ผู้ชุมนุมตะโกนว่า ไหนบอกว่า รถดับเพลิงไม่ได้ไง ตำรวจประกาศว่า กลุ่มผู้ก่อความวุ่นวายพยายามสร้างสถานการณ์อยู่ และประกาศให้รถฉีดน้ำถอยรักษาแนว ตำรวจประกาศแจ้งเตือนอีกครั้งว่า ถ้าไม่แยกย้ายจะบังคับใช้กฎหมายตามยุทธวิธี ตามหลักสากล ตามที่คณะรัฐมนตรีได้ให้อำนาจไว้

เวลา 19.51 น. มีเสียงประทัด 1 ครั้ง รถยนต์ยังคงสัญจรผ่านไปมา จากนั้นผู้ชุมนุมเริ่มถอนออกจากพื้นที่เกือบหมดแล้ว

เวลา 19.58 น. ขบวนรถตำรวจลักษณะเป็นรถสายตรวจของนครบาลเข้าประจำการที่ฝั่งภูเขาทอง

เวลา 19.59 น. ตำรวจประกาศว่า ขอให้สื่อมวลชนอยู่ในแนวที่ปลอดภัย โดยขณะนี้ผู้ชุมนุมถอนออกจากพื้นที่ไปแล้ว

เวลา 20.42 น. ตำรวจชุดกากีขึ้นรถกระบะเคลื่อนที่เร็วเข้ามาที่แยกผ่านฟ้า มีการถือปืนลูกซองชี้เปิดทางไปด้วย จากนั้นคุมตัวประชาชนอย่างน้อย 4 คนมาค้นตัวและถ่ายภาพไว้ที่บริเวณหน้าป้อมมหากาฬ

เวลา 20.50 น. ตำรวจไปคุมตัวเอกชัย หงส์กังวานออกมาจากเซเว่นตรงข้ามพิพิธภัณฑ์มีการตรวจค้นสิ่งของ จากนั้นพาตัวเอกชัยพร้อมเยาวชนอีก 4 คนไปตรวจสอบที่หน้าป้อมมหากาฬ

เวลา 20.55 น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร.กล่าวว่า เวลาประมาณ 19.00 น. มีเหตุขว้างปาประทัดยักษ์ที่แยกผ่านฟ้า ตำรวจประกาศแจ้งเตือนให้หยุดการกระทำ แต่ยังก่อเหตุต่อล่วงเลยมาประมาณหนึ่งชั่วโมง เมื่อประกาศไม่เป็นผลจึงได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้ามาแยกผ่านฟ้า มีการตรวจสอบกลุ่มบุคคลว่า มีหลักฐานแน่ชัดว่า มาร่วมชุมนุม มีรายงานการคุมตัวไป "ซักถาม" ประมาณ 5-6 คน 

ด้านเอกชัยและเยาวชนอีก 4 คนที่ถูกคุมตัวตรวจสอบ ตำรวจบอกให้เขาขึ้นรถผู้ต้องขัง แต่พวกเขาแย้งว่า จะพาไปสน.ต้องแจ้งข้อกล่าวหามาก่อน โดยพวกเขาแสดงความบริสุทธิ์ใจทั้งหมดยอมให้ตรวจสอบสิ่งของแล้ว นอกจากนี้ตำรวจจะขอตรวจสอบโทรศัพท์ แต่พวกเขาไม่ยอมและมีการให้หยุดไลฟ์ด้วย ท้ายสุดยอมปล่อยตัวออกมา

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า มีการจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุไปแล้วไม่น้อยกว่า 7 คน และยึดรถจักรยานยนต์ ไปที่สน.บางรัก