แผนรบ.เล่นมุก :"ชัยวุฒิ" ลั่นรบ.ได้ซื้อวิทยุทรานซิสเตอร์ 10 เครื่อง เครื่องละ 500 วางตามจุดอับต่างๆ ของสภาฯ หมื่นล้าน

05 ต.ค. 2565 รัฐสภา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐและ รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ระบุว่ารัฐบาลได้จัดซื้อวิทยุทรานซิสเตอร์จำนวน 10 เครื่อง ราคาเครื่องละ 500 บาท เพื่อนำไปตั้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ในอาคารรัฐสภาที่ไม่ได้ยินการถ่ายทอดเสียงการประชุมสภา เช่น โรงอาหาร หน้าห้องสุขาและห้องสูบบุหรี่ เพื่อให้ ส.ส.ติดตามการประชุมได้อย่างต่อเนื่องในทุกที่ และกลับเข้าห้องประชุมทันสำหรับการลงมติในวาระต่าง ๆ

ขณะที่ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการประชุมการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัยและให้ความช่วยเหลือ ที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 เกี่ยวกับเรื่องการสื่อสาร โดยให้เน้นย้ำการแจ้งเตือนประชาชนผ่านทุกช่องทาง ไปถึงชุมชน หมู่บ้าน ให้ประชาชนรับทราบและเตรียมความพร้อมในการรับมือสถานการณ์อุทกภัยในเบื้องต้น รวมทั้งจะต้องมีแผนสำรองด้านการสื่อสาร โดยนายกรัฐมนตรีย้ำให้ความสำคัญกับการสื่อสารผ่านทางวิทยุ เพราะวิทยุถือได้ว่าเป็นสื่อที่ยังเข้าถึงประชาชนได้ดีที่สุด อีกทั้งมีผลสำรวจข้อมูลยืนยัน สื่อวิทยุยังเป็นที่นิยมของประชาชนทุกช่วงวัย

"นายกฯ ให้ความสำคัญกับการสื่อสารผ่านทางวิทยุ เพราะเป็นสื่อที่เข้าถึงประชาชนได้ดีที่สุด ทั้งมีกฎ กติกา ชัดเจน ที่จะต้องออกอากาศในเวลาที่มีภัยพิบัติ" นายอนุชาย้ำ

การจุดประกายเรื่อง "วิทยุทรานซิสเตอร์" ซึ่งเด็กรุ่นใหม่ๆคงไม่รู้จักกันแล้ว  ถือว่าเป็น "แผนการ" สร้างกระแสที่ได้ผลเป็นที่ฮือฮา เมื่อสภาหมื่นล้านหันมาใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ที่เด็กๆรุ่นใหม่ไม่รู้จัก อีกทั้งยังเป็นการประชดประชันของฝ่ายรัฐบาลที่พ่ายแพ้หลายครั้งในการประชุมสภาเมื่อพรรคฝ่ายค้านไม่เข้าร่วมจนทำให้ต้องปิดประชุมไม่สามารถเดินหน้าต่อได้  ด้วยการอ้างว่ารัฐสภาหมื่นล้านมีจุดอับหลายแห่ง จึงต้องซื้อวิทยุทรานส์ซิสเตอร์มาวางตามจุดอับต่างๆเพื่อให้ได้ยินกันและเข้าทันประชุมสภา นี่ไม่ใช่เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ หัวโบราณแต่เป็นแผนการแยบยลของฝ่ายรัฐบาลเองที่ปลุกกระแส ลดเสียงบ่นของประชาชนในด้านอื่นๆ โดนเฉพาะเรื่องที่ศาลรธน.มีมติตัดสินให้ "ลุงตู่อยู่ต่อ" หันมาด่า เรื่อง "วิทยุทรานซิสเตอร์" แทน