บรรยากาศงานศพคนไข้เสียชีวิตขณะรอรักษาตัวที่รพ.กบินทร์บุรีท่ามกลางความโศกเศร้า (มีคลิป)
ปราจีนบุรี – บรรยากาศสวดพระอภิธรรมศพนายบุญเชิด มารวย อายุ 62 ปี เสียชีวิต ขณะรอรักษาตัวที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี แต่ไร้เหลียวแล
เมื่อเวลา20.30 น.วันที่ 2 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า บรรยากาศสวดพระอภิธรรมศพนายบุญเชิด มารวย อายุ 62 ปี โดยก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตป่วยมีอาการเจ็บและชาบริเวณสะโพกและขาขวาจึงไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี เมื่อเช้าวันวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมาหลังจากนำตัวส่งโรงพยาบาลตั้งแต่เช้าและรอทำการตรวจรักษากระทั่งบายคนไข้มีอากจากนั้นญาติได้แจ้งเจ้าหน้าที่พยาบาลที่หน้าห้องฉุกเฉินเนื่องจากผู้เสียชีวิตนอนแน่นิ่งไปเขย่าเตียงพบว่าคนไข้แน่นิ่งไปแล้วจึงเรียกบอกเจ้าหน้าที่พยาบาลให้ทราบจากนั้นพยาบาลได้นำตัวเข้าทำการรักษาที่ห้องฉุกเฉิน
ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่พยาบาลว่าคนไข้เสียชีวิตแล้วเนื่องจากปอดติดเชื้อและเกล็ดเลือดต่ำทำให้ภาวะหัวใจล้มเหลวและเสียชีวิต สร้างความงุนงงให้กับภรรยาและลูกตลอดจนญาติเป็นอย่างยิ่งเพราะผู้เสียชีวิตก่อนเดินทางออกจากบ้านยังมีอาการเหมือนคนปกติพูดจาตอบสนองได้ดี เมื่อมารอทำการรักษาที่โรงพยาบาลแต่เกิดเสียชีวิตระหว่างรอทำการรักษา ญาติได้ร้องทุกข์ชาวบ้านผ่านสื่อมวลชน และเพจ ตามที่ได้นำเสนอโดยต่อเนื่อง นั้น
ล่าสุด นางนิ่มนวล เภาคำ ภรรยากล่าวว่า การเสียชีวิตของสามีในครั้งนี้สร้างความงุนงงให้กับตนและลูกเป็นอย่างยิ่งไม่คิดว่าสามีจะมาตายขณะรอให้หมอทำการรักษา หากทำการรักษาสามีเร็วกว่านี้อาจจะไม่เกิดเรื่องเศร้าขึ้นคิดว่าการรอคอยการรักษานานเกินไปทำให้สามีเสียชีวิต อยากให้ทางโรงพยาบาลออกมารับผิดชอบในการเสียชีวิตของสามีในครั้งนี้ขอให้สามีเป็นคนสุดท้ายที่เสียชีวิตจากการรอการรักษาของทางโรงพยาบาลกบินทร์บุรี
จากการสอบถามทางโรงพยาบาลว่าจะรับผิดชอบอย่างไรผอ. บอกว่าจะมีการเยียวยาให้กับครอบครัวในอีก 3 เดือนข้างหน้าต้นคิดว่ามันนานเกินไปสำหรับการที่ทางโรงพยาบาลจะออกมารับผิดชอบในการเยียวยาของการจากไปของสามี
นายประทีป ทิพรอด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (ส.อบจ.) หนึ่งในญาติผู้เสียชีวิตกล่าวว่า รู้สึกงงกับการจากไปของผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ ไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ หากทางโรงพยาบาลทำการรักษาได้ทันท่วงทีจะไม่เกิดการสูญเสียชีวิตในครั้งนี้แน่นอน อยากให้ทางโรงพยาบาลดูแลบริการการรักษาประชาชนทั่วไป ที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลให้ดีกว่านี้
อยากให้เคสนี้เป็นเคสสุดท้ายของคนอำเภอกบินทร์บุรี ซึ่งเป็นเคสที่เจ็บปวดที่สุดซึ่งชาวอำเภอกบินทร์บุรีไม่อยากให้มีคนเสียชีวิตขณะมารอทำการรักษาที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี
