บูรณาการกำลัง ทลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ยะลา

บูรณาการกำลัง ทลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ยะลา





ad1

ยะลา- บูรณาการกำลัง ทลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ รวบของกลาง ยาบ้า มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท ก่อนส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน

พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วยพลตำรวจโท นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, นายยะห์ยา ปะนาฆอ ปลัดจังหวัดปัตตานี และส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ  ที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อำเภอเมือง จังหวัดยะลา

โดยสามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้จำนวน 3 ราย คือ นายสุไลมาน (กัน) ลอนา อายุ 37 ปี, นางสาวศรศมน (เล็ก) ศรีบุรินทร์ อายุ 41 ปี และนายสาบรี เจ๊ะนุ อายุ 28 ปี บริเวณริมถนนสาย 418 (ยะลา-ปัตตานี) หมู่ที่ 4 ตำบลลิปะสะ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และริมถนนสาย 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) หมู่ที่ 1 ตำบลรูโบ๊ะบือซา อำเภอยี่งอ จังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 1,500,000 เม็ด รถยนต์บรรทุกหัวลากกึ่งพ่วง  ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 72-2008 นครปฐม จำนวน 1 คัน, รถยนต์บรรทุกหัวลากกึ่งพ่วง ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 71-3508 จำนวน 1 คัน, รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ชิตี้ ทะเบียน กร 8137 พระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 คัน, รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส  ทะเบียน กฉ 3236 จำนวน 1 คัน, โทรศัพท์มือถือพร้อมชิมการ์ด จำนวน 8 เครื่อง และอื่นๆ  เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) อันมีลักษณะเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน

สำหรับการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญครั้งนี้ สืบเนื่องจากการสืบสวนทราบว่ามีเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งเปิดบริษัทประกอบการธุรกิจขนส่งบังหน้า"เครือข่ายของเจ้เล็ก" โดยเปิดบริษัทขนส่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม มีพฤติการณ์ร่วมกันติดต่อกับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดชนิดยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ลำเลียงมาส่งให้ให้เครือข่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้ร่วมกันสืบสวนติดตามเรื่อยมา ซึ่งที่ผ่านมาสามารถจับกุมบุคคลในเครือข่ายได้จำนวนหลายราย และมีการขยายผลการจับกุมเพื่อทำลายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง กระทั่งต่อมาก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกัน

สืบสวนทราบว่าเครือข่ายของเจ้เล็ก มีการเตรียมการที่จะลักลอบลำเลียงยาเสพติด ชนิดยาบ้าล็อตใหญ่จากพื้นที่ภาคเหนือเพื่อส่งจำหน่ายให้เครือข่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ในการซุกซ่อนลำเลียงยาเสพติด จึงได้ประชุมวางแผน ทำการสืบสวนติดตามจับกุม กระทั่งทราบข้อมูลยานพาหนะที่เครือข่ายดังกล่าวใช้ในการลำเลียงยาสพติดในครั้งนี้  จึงได้จัดกำลังเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์ เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง กระทั่งในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการติดตามและสกัด ตรวจคันจับกุมนายสุไลมาน (กัน) ลอนา และนางสาวศรศมน (เล็ก) ศรีบุรินทร์ ได้พร้อมของกลางในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี หลังจากนั้นได้ทำการขยายผลไปจับกุมนายสาบรี เจ๊ะนุ ซึ่งเป็นเครือข่ายที่รอรับยาเสพติดของกลางได้ในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส หลังจากนั้นจึงได้ควบคุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรตุยง จังหวัดปัตตานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย  ในการนี้ได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิด เพื่อดำเนินการตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564  จำนวน 12  รายการ รวมมูลค่าประมาณ 7,000,000 บาท และจะได้สืบสวนขยายผลติดตามยึดทรัพย์ของผู้ต้องหา และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และเครือข่ายที่ร่วมกระทำผิดและยังไม่ถูกจับกุมต่อไป

พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า " การจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแหล่งแพร่ระบาด เป็นจุดพักยา และเป็นเส้นทางลำเลียงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ครั้งนี้ถือเป็นผลสัมฤทธิ์ของการบูรณาการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วน และยังคงยืนยันกับพี่น้องประชาชน ว่าทุกข์ของท่านเราจะขจัดให้บรรเทาลง โดยเฉพาะทุกข์ที่เกิดจากยาเสพติด ครั้งนี้เกิดจากการติดตาม และขยายผลของเจ้าหน้าที่จนนำมาสู่การจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผลต่อเนื่องจากในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางและภาคใต้ตอนบน มีความต่อเนื่องในการขนย้าย และมีผู้รับผิดชอบเป็นช่วงๆ ความยากลำบากเหล่านี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมุ่งมั่นในการดำเนินการ แบ่งหน้าที่หลายส่วน อย่างไรก็ตามกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และส่วนที่เกี่ยวข้องยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินการอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้พื้นที่ปราศจากยาเสพติด"

สำหรับการจับกุมยาเสพติดในรอบเดือนที่ผ่านมา กำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง สามารถจับกุมนักค้ายาเสพติดและของกลางได้เป็นจำนวนมาก นั่นแสดงว่าขบวนการค้ายาเสพติดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชน แสดงออกถึงจุดยืนในการต่อต้านยาเสพติดอย่างจริงจัง ด้วยการแจ้งเบาะแส บุคคลต้องสงสัยได้ที่สายด่วน 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง