น้ำมันแพง - สินค้าราคาพุ่ง! วัดฝีมือรัฐบาล ชี้ลดภาษีลิตรละ 3 บาท น้อยและช้าเกินไป

น้ำมันแพง - สินค้าราคาพุ่ง! วัดฝีมือรัฐบาล

น้ำมันแพง - สินค้าราคาพุ่ง! วัดฝีมือรัฐบาล ชี้ลดภาษีลิตรละ 3 บาท น้อยและช้าเกินไป





ad1


- ปัญหาน้ำมันแพงและปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ที่ต้องควักเงินเติมน้ำมันมากขึ้น ขณะเดียวกันยังส่งผลต่อต้นทุนการขนส่งและราคาสินค้าในภาพรวมด้วย ล่าสุดแม้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง “ไม่เกิน 3 บาทต่อลิตร" เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อลดผลกระทบด้านค่าครองชีพและแก้วิกฤตน้ำมันแพง แต่สำหรับฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย มองว่ารัฐบาลลดน้อยและลดช้าเกินไป!
.
หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงไม่เกิน 3 บาทต่อลิตร ระยะเวลา 3 เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงใช้บังคับ จนถึงวันที่ 20 พ.ค. 2565 โดยออกเป็นร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. โดยมีรายละเอียด ดังนี้

▪️เผยโครงสร้างภาษีน้ำมันอัตราใหม่
.
- น้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถัน เกินร้อยละ 0.005 โดยน้ำหนัก อัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.440 บาท 

- น้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกินร้อยละ 0.005 โดยน้ำหนัก อัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.440 บาท 

- น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสม ไม่เกินร้อยละ 4 อัตราภาษีเดิม 6.440 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.440 บาท 

- น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสม เกินร้อยละ 4 แต่ไม่เกินร้อยละ 7 อัตราภาษีเดิม 5.990 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.200 บาท 

- น้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมเกินร้อยละ 7 แต่ไม่เกินร้อยละ 9 อัตราภาษีเดิม 5.930 บาท อัตราภาษีใหม่ 3.170 บาท
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซถูกจัดเก็บในอัตราลิตรละ 5.99 บาท ทำรายได้เข้ารัฐเดือนละ 12,000 ล้านบาท หรือ 1.44 แสนล้านบาทต่อปี จากการใช้น้ำมัน 2,000 ล้านลิตรต่อเดือน การปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงไม่เกิน 3 บาทต่อลิตร ระยะเวลา 3 เดือน จะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 17,100 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 5,700 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าจะส่งผลให้ราคาสินค้าลดลงตามไปด้วย
.
▪️ เสนอให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท 
.
อย่างไรก็ตาม ‘นายพิชัย นริพทะพันธุ์’ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ และอดีต รมว.พลังงาน มองว่ารัฐบาลประยุทธ์ ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลน้อยไป และลดช้าไป โดยระบุว่าหากจำกันได้เรื่องการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลนี้ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ได้แนะนำและเรียกร้องมานานหลายเดือนแล้ว โดยเสนอให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท แต่รัฐบาลปฏิเสธมาตลอด สุดท้ายก็ต้องลดตามคำแนะนำ แต่ลดแล้วไม่ได้ช่วยให้ราคาน้ำมันดีเซลลดลง 
.
ทั้งนี้ เพราะปัจจุบันรัฐบาลให้กองทุนน้ำมันสนับสนุนราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 3.79 บาท ซึ่งก็ยังสูงกว่าที่รัฐบาลลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่ลิตรละ 3 บาท ดังนั้น ถึงลดแล้วกองทุนน้ำมันก็ยังต้องอุดหนุนอยู่ดี อีกทั้งราคาน้ำมันยังคงมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีกเรื่อยๆ ดังนั้นการลดการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพียง 3 บาทจึงน้อยไป
.
▪️ เทียบสมัยยิ่งลักษณ์ ลดเหลือลิตรละ 0.005 บาท
.
นอกจากนี้ ยังลดช้าไปด้วย ถ้าลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ตั้งแต่ที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเสนอ ราคาสินค้าจะไม่ขึ้นราคามากขนาดนี้ ปัจจุบันราคาสินค้าได้สูงขึ้นตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้นไปแล้ว และหากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงสูงขึ้นอีก ราคาสินค้าก็อาจจะเพิ่มขึ้นอีก อีก เพราะราคาน้ำมันโลกไม่น่าจะลดลงได้ภายใน 3 เดือน และจะมีแต่ราคาจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 
.
“ในภาวะเช่นนี้พลเอกประยุทธ์ จะต้องหัดคิดล่วงหน้า ขนาดลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท อาจจะยังไม่พอด้วยซ้ำ ต้องกลับไปคิดว่าในเมื่อราคาน้ำมันราคาจะยิ่งพุ่งขึ้น ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนลง ควรจะลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง ให้เท่ากับในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ในสมัยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือลดลงเหลือการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพียงลิตรละ 0.005 บาท (ครึ่งสตางค์) เท่านั้น เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชนล่วงหน้า ก่อนที่ราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นอีก” นายพิชัย กล่าว